Chery Tiggo 9: ถอดรหัสเรือธง PHEV ยกระดับประสบการณ์ SUV พรีเมียมแห่งปี 2025
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำและผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนอย่าง Chery ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพอันน่าทึ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถท้าทายผู้เล่นระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ และในปี 2025 นี้ ไม่มีรถยนต์รุ่นใดที่สะท้อนวิสัยทัศน์และความทะเยอทะยานของ Chery ได้ดีเท่ากับ Chery Tiggo 9 PHEV เอสยูวีเรือธงรุ่นล่าสุดที่พร้อมจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย
Chery Tiggo 9 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่เข้ามาแข่งขันในตลาด แต่เป็นการประกาศศักดาครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการก้าวข้ามขีดจำกัดของแบรนด์ ด้วยการผสานรวมเอาดีไซน์อันหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง และความใส่ใจในรายละเอียดที่เทียบชั้นได้กับรถยนต์ยุโรปในเซกเมนต์เดียวกัน นี่คือรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ พร้อมกับความอเนกประสงค์ที่แท้จริงของ รถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง
ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่มาพร้อมพลังและจุดยืนที่ชัดเจน
เมื่อแรกเห็น Chery Tiggo 9 ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่มีประสบการณ์อย่างผมสามารถสัมผัสได้ทันทีถึงความตั้งใจในการออกแบบที่มุ่งเน้นความพรีเมียมและความทรงพลังในทุกมิติ ดีไซน์ภายนอกของ Tiggo 9 สะท้อนให้เห็นถึงเส้นสายที่เฉียบคมและโค้งมนที่ลงตัว ซึ่งเป็นแนวคิดที่ Chery เรียกว่า “Art in Motion” กระจังหน้าทรงหลายเหลี่ยมสไตล์ Waterfall ที่ตกแต่งด้วยโครเมียมอย่างประณีต ไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบด้านหน้าเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์รวมสายตาที่ให้ความรู้สึกหรูหราและดุดันในเวลาเดียวกัน ชุดไฟหน้าที่เพรียวบางแบบ LED Matrix ที่ผสานเข้ากับช่องรับลมดีไซน์สปอร์ต ไม่เพียงแต่เพิ่มความทันสมัย แต่ยังช่วยให้ด้านหน้าของตัวรถดูโอ่อ่าและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น การจัดวางองค์ประกอบเหล่านี้สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นว่านี่คือ รถยนต์พรีเมียม ที่พร้อมจะยืนหยัดในเวทีโลก
เส้นสายด้านข้างของ Chery Tiggo 9 ถูกออกแบบให้ดูยาวและปราดเปรียว ด้วยการใช้แนวคิด หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) ที่ช่วยลดทอนความหนักของตัวรถขนาดใหญ่ และยังเป็นองค์ประกอบที่ได้รับความนิยมในรถยนต์หรูหราในปัจจุบัน มือจับประตูแบบซ่อน (Flush Door Handles) ไม่เพียงแค่เพิ่มความสวยงามและไหลลื่นทางอากาศพลศาสตร์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยและเทคโนโลยีที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ด้านท้ายของรถไม่น้อยหน้า ด้วยชุดไฟท้ายแบบ LED เต็มความกว้าง (Full-Width LED Taillights) ที่เชื่อมต่อกันเป็นเส้นเดียว เสริมให้ตัวรถดูกว้างและมีมิติมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยท่อไอเสียคู่ที่ช่วยเสริมลุคสปอร์ตและความแข็งแกร่งได้อย่างลงตัว ทุกรายละเอียดล้วนถูกคิดมาอย่างดีเพื่อสร้างความกลมกลืนระหว่างความหรูหรา สมรรถนะ และความทันสมัย
ในมิติของตัวถัง Chery Tiggo 9 มีความยาวถึง 4,820 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,820 มิลลิเมตร ทำให้เป็น รถยนต์ SUV ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล Chery ณ ปัจจุบัน ซึ่งใหญ่กว่า Tiggo 8 อย่างชัดเจน มิติที่กว้างขวางนี้ส่งผลโดยตรงต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่โปร่งโล่งและสะดวกสบายอย่างยิ่ง สำหรับตลาดประเทศไทย Chery ได้ยืนยันแล้วว่าจะนำเสนอเฉพาะรุ่น 7 ที่นั่ง ซึ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดที่อาจดูเทอะทะ เพราะการออกแบบที่ชาญฉลาดช่วยให้ Tiggo 9 มีสัดส่วนที่ลงตัวและน่ามอง
ค็อกพิตสุดล้ำ: ผสานความหรูหราและเทคโนโลยีเพื่อประสบการณ์ที่เหนือกว่า
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Chery Tiggo 9 คุณจะถูกโอบล้อมด้วยบรรยากาศแห่งความหรูหราและล้ำสมัยที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน การเลือกใช้โทนสีน้ำตาล-ขาวที่อบอุ่นและสะอาดตา ผสานกับการตกแต่งด้วยลายไม้และงานเดินด้ายสีทองตามจุดต่างๆ สะท้อนถึงรสนิยมและความใส่ใจในรายละเอียดที่พบได้ใน รถยนต์พรีเมียม ระดับสูง วัสดุที่ใช้ล้วนเป็นวัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและดูหรูหรา สร้างความรู้สึกของความพิเศษในทุกครั้งที่ใช้งาน
ไฮไลท์ที่โดดเด่นและเป็นหัวใจสำคัญของ ห้องโดยสารอัจฉริยะ (Smart Cockpit) นี้ คือหน้าจอคู่ดีไซน์โค้ง (Curved Dual Screen) ขนาดใหญ่ที่ผสานหน้าจอมาตรวัดดิจิทัลและหน้าจออินโฟเทนเมนต์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ความคมชัดของจอภาพและการจัดวางที่ ergonomically sound ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย เบื้องหลังความเทพของหน้าจอคู่นี้คือขุมพลังจากชิปประมวลผลระดับท็อปอย่าง Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบ Infotainment ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล และรองรับฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อน เช่น การประมวลผลกราฟิก 3D สำหรับแผนที่นำทาง, ระบบสั่งการด้วยเสียงที่ฉลาดกว่าเดิม, และการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
ยิ่งไปกว่านั้น Chery Tiggo 9 ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ด้วย 5G ผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมมิ่งความละเอียดสูง, การอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-The-Air (OTA) ได้อย่างรวดเร็ว, หรือการใช้งานระบบนำทางที่แม่นยำและมีการอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ฟังก์ชันเหล่านี้ไม่เพียงแค่เพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังยกระดับความปลอดภัยและประสบการณ์การเดินทางให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น
ช่องแอร์ดีไซน์ทรงกลมจำนวนมากถึง 27 ช่อง ไม่ได้เป็นเพียงความสวยงาม แต่ยังถูกออกแบบมาเพื่อกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตำแหน่งใดในห้องโดยสาร ผู้โดยสารก็จะได้รับความสบายสูงสุด การลดจำนวนปุ่มควบคุมทางกายภาพลง และเน้นการควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัส รวมถึงปุ่มแบบสัมผัสบนพวงมาลัยและหัวเกียร์ สะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง (Minimalist yet Functional) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมใน เทคโนโลยีรถยนต์ ยุคใหม่
ในส่วนของระบบความบันเทิง Tiggo 9 จัดเต็มด้วยระบบเสียงรอบทิศทางจาก SONY พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 14 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและสมจริง ประหนึ่งกำลังรับชมการแสดงสดในคอนเสิร์ตฮอลล์ชั้นนำ พร้อมเพิ่มบรรยากาศด้วยไฟ Ambient Light ที่ปรับได้ถึง 255 สี ผู้โดยสารสามารถเลือกปรับสีได้ตามอารมณ์หรือสไตล์ที่ต้องการ สร้างสรรค์ห้องโดยสารให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ตอบโจทย์ทุกความรู้สึก นี่คือการผสมผสานระหว่างความสะดวกสบาย ความบันเทิง และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริง
ขุมพลัง PHEV อันทรงพลัง: สมรรถนะเร้าใจ ควบคู่ไปกับความประหยัด
สำหรับ Chery Tiggo 9 ที่จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย Chery ได้เลือกนำเสนอเฉพาะรุ่น ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและสอดคล้องกับทิศทางตลาดโลกและนโยบายพลังงานสะอาดของประเทศไทยในปัจจุบัน รถยนต์ไฮบริด ประเภท PHEV นี้ มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์คู่ภายใต้ระบบ Kunpeng Super Intelligent Hybrid อันเป็นเทคโนโลยีไฮบริดขั้นสูงของ Chery
ระบบ Kunpeng Super Intelligent Hybrid นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้ามาทำงานร่วมกัน แต่เป็นการผสานการทำงานอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 19.43 kWh ทำให้ Tiggo 9 PHEV สามารถส่งพละกำลังรวมสูงสุดถึง 619 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 920 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าประทับใจอย่างยิ่งสำหรับ รถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะเน้นความอเนกประสงค์มากกว่าสมรรถนะ แต่ Tiggo 9 ได้ฉีกทุกกฎเกณฑ์ ด้วยพละกำลังระดับนี้ ทำให้ Tiggo 9 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อย่างน่าทึ่งภายในเวลาเพียง 4.5 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่เทียบเท่ากับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงหลายๆ รุ่น
นอกจากสมรรถนะที่เร้าใจแล้ว Tiggo 9 PHEV ยังมอบประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม จากการทดสอบขับจริงพบว่าสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 1,200 กิโลเมตร (แม้สเปกเคลมไว้ที่ 1,300 กิโลเมตร) ซึ่งถือเป็นระยะทางที่น่าพอใจอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาปั๊มน้ำมันบ่อยครั้ง และด้วยความสามารถในการชาร์จเร็ว (Fast Charge) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาที ทำให้การเติมพลังงานไฟฟ้าเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องการความคล่องตัว
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Intelligent 4WD System) ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ Aisin 8 สปีด ช่วยให้ Tiggo 9 PHEV มีการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนแห้ง ถนนเปียก หรือแม้แต่ทางออฟโรดเบาๆ เพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่ อีกทั้งเกียร์ Aisin ยังได้รับการยอมรับในเรื่องความนุ่มนวลและความทนทาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เสริมให้ประสบการณ์การขับขี่ของ Tiggo 9 สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ช่วงล่าง CDC: ความนุ่มนวลระดับพรมวิเศษ พร้อมความหนึบที่สั่งได้
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ยกระดับ Chery Tiggo 9 ให้เป็น รถยนต์พรีเมียม อย่างแท้จริงคือการติดตั้ง ระบบช่วงล่างแบบ CDC (Continuous Damping Control) ซึ่งเป็นระบบช่วงล่างไฟฟ้าอัจฉริยะที่สามารถปรับความแข็ง-อ่อนของโช้คอัพได้แบบ Real-time ด้วยความถี่สูงถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที เทคโนโลยีนี้เปรียบเสมือนการมีผู้ช่วยคอยปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพถนนและสไตล์การขับขี่อยู่ตลอดเวลา
Chery ได้เคลมว่าระบบ CDC นี้สามารถเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ได้สูงถึง 74.8% เมื่อเทียบกับช่วงล่างแบบปกติ ลดอาการโคลงของตัวรถลงกว่า 50% และเพิ่มความเงียบ รวมถึงการยึดเกาะถนนขึ้นกว่าเดิม 30% ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่การตลาด แต่เป็นสิ่งที่สัมผัสได้จริงขณะขับขี่ Tiggo 9 มอบความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนพรมวิเศษ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงความหนึบแน่นและมั่นคงเมื่อต้องเข้าโค้งหรือใช้ความเร็วสูง การตอบสนองของช่วงล่างที่ฉับไวและปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพถนนแบบใดก็ตาม นี่คือการลงทุนใน เทคโนโลยีช่วงล่างอัจฉริยะ ที่ส่งผลต่อประสบการณ์การขับขี่อย่างมหาศาล
ความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS): มั่นใจทุกเส้นทาง
ในฐานะ รถยนต์ SUV เรือธง สำหรับปี 2025 Chery Tiggo 9 ไม่ได้มองข้ามเรื่องความปลอดภัยและการช่วยเหลือผู้ขับขี่ ด้วยการติดตั้งระบบ ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ที่ครบครันและล้ำสมัย เพื่อเพิ่มความอุ่นใจและลดภาระในการขับขี่ลงอย่างมาก
ระบบความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับที่คาดว่าจะมาพร้อมกับ Tiggo 9 ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Keeping Assist), ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Forward Collision Warning with Autonomous Emergency Braking), ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring), ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ, และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ที่ให้ภาพคมชัดช่วยให้การจอดรถหรือขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่าย
นอกจากนี้ ยังมีระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert) และระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆ เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สะดวกสบายและไร้กังวลมากยิ่งขึ้น ผู้ขับขี่สามารถมั่นใจได้ว่า Tiggo 9 จะเป็นทั้งผู้พิทักษ์และผู้ช่วยที่ชาญฉลาดในทุกการเดินทาง
สรุป: การประกาศศักดาครั้งสำคัญในตลาด SUV ไทย
Chery Tiggo 9 PHEV ไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอ รถยนต์ SUV รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด แต่เป็นการประกาศศักดาครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของแบรนด์ Chery และอุตสาหกรรมยานยนต์จากจีนโดยรวม ในปี 2025 นี้ Tiggo 9 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารถยนต์จากจีนไม่ได้มีดีแค่ราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง ความหรูหราที่เทียบชั้นแบรนด์ยุโรป และความพรีเมียมที่พร้อมจะแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ห้องโดยสารที่ผสานความล้ำสมัยและความสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ขุมพลัง PHEV ที่มอบทั้งความแรงและความประหยัด พร้อมด้วยระบบช่วงล่าง CDC ที่ให้ความนุ่มนวลเหนือระดับและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน Chery Tiggo 9 PHEV จึงเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ SUV 7 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ที่ครบครันในทุกด้าน
สำหรับตลาดประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง Chery Tiggo 9 พร้อมที่จะลงสนามแข่งขันอย่างเต็มตัว และจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์พรีเมียม ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ คาดการณ์ว่า Chery Tiggo 9 PHEV จะเริ่มจำหน่ายในช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 นี้ เตรียมตัวพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเซกเมนต์ รถยนต์ SUV ได้เลยครับ
	    	
		    
