อีซูซุ ดีแมคซ์ 2025-2026: หนึ่งเดียวที่นิยามอนาคตแห่งรถกระบะ
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมมากมายที่กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม และในปี 2025 นี้ อีซูซุ ดีแมคซ์ โฉมใหม่ 2025-2026 ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอีกครั้ง พร้อมกับนิยามใหม่ของรถกระบะอเนกประสงค์ ภายใต้แนวคิด “THE ONE & ONLY” ที่ไม่ได้เป็นเพียงสโลแกน แต่คือปรัชญาที่สะท้อนถึงการเป็นหนึ่งเดียวในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ล้ำสมัย เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะที่ครบครัน และสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างไร้ที่ติ บทความนี้จะนำพาทุกท่านไปเจาะลึกทุกรายละเอียดของยนตรกรรมแห่งอนาคตคันนี้ ทั้งในรุ่น Isuzu V-Cross 4×4, Isuzu D-Max Hi-Lander 4 Doors และ Isuzu X-Series ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้งานในปี 2025 นี้
Isuzu V-Cross 4×4 2025-2026: ปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย
สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ต้องการรถกระบะคู่ใจที่พร้อมลุยไปในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือออฟโรดสุดหฤโหด อีซูซุ วี-ครอส 4×4 2025-2026 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการผสมผสานความแข็งแกร่งดุดันเข้ากับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวทันสมัย และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูง นี่คือรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อที่ถูกสร้างมาเพื่อทะลายทุกข้อจำกัด
ดีไซน์ภายนอกอันแข็งแกร่งและดุดันสะท้อนตัวตน:
รูปลักษณ์ภายนอกของ Isuzu V-Cross 4×4 ใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อสื่อถึงความพร้อมสำหรับการผจญภัยโดยเฉพาะ
กระจังหน้าแบบ Multi-layer ดีไซน์ใหม่: โดดเด่นด้วยการจัดวางชั้นวัสดุที่ซับซ้อน มอบมิติความลึกและความแข็งแกร่ง พร้อมโลโก้อีซูซุที่ดูทรงพลัง สะท้อนความพรีเมียมและลุยได้ในคันเดียว
ไฟหน้าดีไซน์พิเศษ Modern Line พร้อม Multifunctional Daylight: เส้นสายไฟหน้าที่เฉียบคมและล้ำสมัย ไม่เพียงแต่ให้แสงสว่างที่ชัดเจนในทุกสภาพอากาศ แต่ยังรวมฟังก์ชัน Daylight (ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน), ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวไว้ในชุดเดียวกันอย่างลงตัว เพิ่มความปลอดภัยและสวยงามในทุกมิติของการขับขี่
ไฟท้าย LED แบบ Clear Lens พร้อมชุดกันชนท้ายทรงสปอร์ต: การออกแบบไฟท้ายแบบเลนส์ใสช่วยเพิ่มความทันสมัยและโดดเด่นยามค่ำคืน ขณะที่กันชนท้ายทรงสปอร์ตถูกออกแบบมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและป้องกันการกระแทก พร้อมลุยทุกเส้นทาง
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สี Matte Black ดีไซน์ Metal Claw: ล้ออัลลอยสีดำด้านดีไซน์เฉพาะ “Metal Claw” ที่ดูดุดันและแข็งแกร่ง เข้ากันได้ดีกับบุคลิกของรถกระบะ 4×4 ที่พร้อมลุยอย่างไม่เกรงกลัว
ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา สะดวกสบาย และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี:
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร คุณจะสัมผัสได้ถึงความหรูหราที่มาพร้อมความสะดวกสบายสูงสุด
เบาะนั่งทูโทนดีไซน์เท่ โอบกระชับทุกสรีระ พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX: เบาะนั่งได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยวัสดุสองสีที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและพรีเมียม พร้อมคุณสมบัติ COOLMAX ที่ช่วยระบายความร้อน ลดความอับชื้น เพิ่มความสบายตลอดการเดินทาง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย นอกจากนี้ ในตำแหน่งคนขับยังมาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ให้คุณสามารถปรับหาตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุดได้อย่างง่ายดาย
หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว: ศูนย์รวมความบันเทิงและข้อมูลการขับขี่ที่หลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay (เฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับการใช้งาน) ช่วยให้คุณเชื่อมต่อโลกดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งการนำทาง เล่นเพลง หรือการสื่อสาร พร้อม Charging Socket แบบ USB-C ทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน
ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพงแบบ Dynamic Surround Sound: มิติเสียงที่คมชัดและสมจริง เปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นคอนเสิร์ตฮอลล์เคลื่อนที่ สร้างบรรยากาศการเดินทางที่น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีความสะดวกสบายและความมั่นใจในการขับขี่:
Isuzu V-Cross 4×4 2025-2026 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจในการขับขี่อย่างเต็มที่
EPS (Electric Power Steering) พวงมาลัยไฟฟ้า: ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่แม่นยำและเบาแรง ควบคุมง่าย ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือบนเส้นทางออฟโรดที่ต้องการความมั่นคง ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน
กล้องรอบคัน 360° Surround View Camera พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ: ระบบกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบรถได้อย่างชัดเจน ทั้งในขณะจอดรถหรือขับขี่ในที่แคบ และที่พิเศษคือมีมุมมองใต้ท้องรถ (Under-carriage View) ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด ทำให้มองเห็นอุปสรรคที่อาจซ่อนอยู่ได้อย่างแม่นยำ เพิ่มความมั่นใจในการปีนป่ายหรือข้ามผ่านสิ่งกีดขวาง
กุญแจรีโมท Isuzu Genius Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start: เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยการสตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกลได้ถึง 20 เมตร ช่วยให้คุณสามารถเปิดแอร์เตรียมความเย็นในห้องโดยสารก่อนขึ้นรถได้ทันที
Walk Away Auto Lock: ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่เดินออกห่างจากตัวรถเกิน 3 เมตร เพิ่มความปลอดภัยและความอุ่นใจเมื่อต้องรีบเร่งออกจากรถ
ระบบความปลอดภัย Isuzu Matrix Safety Sense: ก้าวล้ำปกป้องทุกการเดินทาง:
อีซูซุ วี-ครอส 4×4 2025-2026 มาพร้อมชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่ครบครัน เพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรักในทุกสถานการณ์ นับเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในรถกระบะยุคปัจจุบัน
LKAS (Lane Keep Assist System): ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ทำงานร่วมกับกล้องหน้าเพื่อตรวจจับเส้นแบ่งเลนบนท้องถนน หากรถมีแนวโน้มที่จะออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและช่วยประคองพวงมาลัยเพื่อนำรถกลับเข้าสู่เลนอย่างนุ่มนวล นี่คือฟังก์ชันสำคัญที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ทางไกลและเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ไม่คุ้นเคยหรือสภาวะที่ผู้ขับขี่อาจเสียสมาธิไปชั่วขณะ
TJA (Traffic Jam Assist): ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในการขับขี่สภาพจราจรติดขัด โดยรถจะรักษาระยะห่างและควบคุมพวงมาลัยให้รถวิ่งตามรถคันหน้าไปอย่างอัตโนมัติ
ELK (Emergency Lane Keeping): ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน เสริมความมั่นใจเมื่อต้องหักหลบสิ่งกีดขวางกะทันหัน หรือเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลนด้วยความเร็วสูง
LDP (Lane Departure Prevention) พร้อม LDW (Lane Departure Warning): ระบบ LDP จะช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อป้องกันไม่ให้รถออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ควบคู่ไปกับ LDW ที่จะแจ้งเตือนด้วยเสียงและภาพเมื่อรถเริ่มเบี่ยงออกนอกเลน
ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันที่สามารถทำงานได้เต็มช่วงความเร็ว ตั้งแต่ความเร็วต่ำไปจนถึงความเร็วสูง พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go ที่สามารถหยุดรถและออกตัวตามรถคันหน้าได้อัตโนมัติเมื่อการจราจรติดขัด เพิ่มความสบายและความปลอดภัยอย่างมากในการขับขี่ทางไกล
FCW (Forward Collision Warning) และ AEB (Autonomous Emergency Braking): ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้าจะเตือนผู้ขับขี่เมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหน้า หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบ AEB จะช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงหรือป้องกันการชน
TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking): ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ที่มักก่อให้เกิดอุบัติเหตุจากการเลี้ยวตัดหน้ากระแสจราจร
BSM (Blind Spot Monitoring): ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา โดยจะแสดงสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ช่วยให้การเปลี่ยนเลนปลอดภัยยิ่งขึ้น
RCTA & B (Rear Cross Traffic Alert and Brake): ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถหรือวัตถุเคลื่อนที่ผ่านด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Brake) เพื่อป้องกันการชน
AHB (Automatic High Beam): ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืนโดยจะปรับลดระดับไฟลงเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจจับรถคันหน้าหรือรถที่สวนทางมา เพื่อไม่ให้แสงไปรบกวนผู้ร่วมทาง
PMM (Pedal Misapplication Mitigation): ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด เช่น เหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงขณะที่รถจอดนิ่งหรือเคลื่อนที่ช้า และมีสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
MCB (Multi-Collision Brake): ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ โดยจะทำการเบรกรถเพื่อลดความเร็วและป้องกันไม่ให้เกิดการชนซ้ำซ้อนหลังจากการชนครั้งแรก
MSL (Manual Speed Limiter): ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดความเร็วสูงสุดที่ต้องการได้ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมาย
Parking Aid System: ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ ที่ติดตั้งอยู่รอบคัน ช่วยให้การจอดรถในพื้นที่จำกัดเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (Isofix) ที่เบาะนั่งตอน 2: มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อย ด้วยมาตรฐานการติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็กตามหลักสากล
Isuzu D-Max Hi-Lander 4 Doors 2025-2026: ปิกอัพ 4 ประตู ยกระดับชีวิตเมืองสู่ขีดสุด
สำหรับคนเมืองที่มองหารถกระบะที่ใช้งานได้หลากหลาย อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู 2025-2026 คือคำตอบที่ลงตัว ด้วยการผสมผสานความสะดวกสบายแบบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเข้ากับสมรรถนะการบรรทุกและลุยได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวยุคใหม่ รวมถึงการเดินทางพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์
ดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และมีรสนิยม:
Isuzu D-Max Hi-Lander 4 Doors ใหม่ มาพร้อมกับดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ตพรีเมียม แต่ยังคงความแข็งแกร่งในแบบฉบับรถกระบะ
ชุดกระจังหน้าแบบ Multi-layer ดีไซน์ใหม่: เท่ สปอร์ตเร้าใจ ด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อน ให้ความรู้สึกพรีเมียมและโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
ไฟหน้าดีไซน์พิเศษ Modern Line พร้อม Multifunctional Daylight: เส้นสายไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย พร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ทั้ง Daylight, ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Isuzu ในปี 2025
ไฟท้าย LED แบบ Clear Lens พร้อมชุดกันชนท้ายทรงสปอร์ต: มอบความโดดเด่นในทุกมุมมอง ทั้งความสวยงาม ปลอดภัย และสะท้อนถึงดีไซน์ที่ลงตัว
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทน ดีไซน์ Active Blade: ล้อดีไซน์ใหม่ที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหราได้อย่างลงตัว ด้วยสีทูโทนและลาย “Active Blade” ที่สะท้อนความคล่องตัวและทันสมัย
ภายในห้องโดยสารที่เน้นความสปอร์ตและความสบาย:
ห้องโดยสารของ Isuzu D-Max Hi-Lander 4 Doors ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร
เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต เท่ พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX และระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งคนขับ: ให้ความสบายและกระชับในทุกการเดินทาง เหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางไกล พร้อมคุณสมบัติระบายความร้อนที่เหนือกว่า
เทคโนโลยีความสะดวกสบายเหนือระดับ:
เช่นเดียวกับ Isuzu V-Cross 4×4, รุ่น Hi-Lander 4 Doors ก็มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความมั่นใจในการขับขี่ที่ครบครัน
EPS (Electric Power Steering) พวงมาลัยไฟฟ้า: ควบคุมง่าย แม่นยำ ขับสบายในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะต้องเลี้ยวในที่แคบของเมืองใหญ่หรือขับขี่บนทางหลวง
กล้องรอบคัน 360° Surround View Camera พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ: เพิ่มความแม่นยำและความมั่นใจในการขับขี่และจอดรถ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรหนาแน่นในเมืองใหญ่ และยังเป็นประโยชน์ในการประเมินพื้นผิวถนนก่อนขับผ่าน
กุญแจรีโมท Isuzu Genius Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start: สตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากระยะไกล เตรียมพร้อมสำหรับทุกการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
Walk Away Auto Lock: ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเดินออกห่างจากตัวรถ ช่วยเพิ่มความอุ่นใจและสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
ระบบความปลอดภัย Isuzu Matrix Safety Sense: ครบครันเพื่อทุกคนในครอบครัว:
Isuzu D-Max Hi-Lander 4 Doors ได้รับการติดตั้งชุดระบบ ADAS เต็มรูปแบบเช่นเดียวกับรุ่น V-Cross 4×4 ซึ่งรวมถึง LKAS, TJA, ELK, LDP, LDW, ACC with Stop & Go, FCW, AEB, TA-AEB, BSM, RCTA & B, AHB, PMM, MCB, MSL, Parking Aid System และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก Isofix ซึ่งล้วนเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับรถยนต์ยุค 2025 ที่เน้นความปลอดภัยเป็นอันดับแรกสำหรับทุกการเดินทางของครอบครัว
Isuzu X-Series 2025-2026: ปลุกเร้าจิตวิญญาณสปอร์ตในตัวคุณ
สำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่างอย่างมีสไตล์ และหลงใหลในความสปอร์ต อีซูซุ เอ็กซ์-ซีรีส์ 2025-2026 คือตัวตนที่สะท้อนความเร้าใจอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ที่ดุดัน เส้นสายที่บ่งบอกถึงความเร็วในทุกรายละเอียด และการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ นี่คือรถกระบะที่พร้อมจะปลุกเร้าอารมณ์ของคุณให้พร้อมออกเดินทาง
ดีไซน์ภายนอกที่เร้าใจและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ X-Series:
Isuzu X-Series โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายนอกที่เน้นความสปอร์ตเป็นพิเศษ
กระจังหน้าแบบ Multi-layer โทนเข้มตัดแดง Garnet Red: การผสมผสานสีสันที่ลงตัวระหว่างสีเข้มและสีแดง Garnet Red สร้างความรู้สึกสปอร์ตดุดันและพรีเมียม บ่งบอกความเป็น X-Series อย่างชัดเจน
ไฟหน้าดีไซน์พิเศษโฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสาย Stylish Red Line: เพิ่มความโดดเด่นและบ่งบอกความเป็น X-Series ด้วยเส้นสายสีแดงที่สวยงามและทันสมัย
ไฟท้าย LED แบบ Clear Lens: ดีไซน์ทันสมัยเข้ากับภาพลักษณ์สปอร์ตโดยรวมของรถ
สติกเกอร์ Illusion of Speed คาดหน้า-หลัง: สติกเกอร์ดีไซน์พิเศษที่สื่อถึงความเร็วและพลวัตของรถได้อย่างชัดเจน เพิ่มความเร้าใจในทุกมุมมอง
สเกิร์ตหน้า-หลัง สไตล์ Integrated ลาย Kevlar พร้อมปั๊มลาย X: เพิ่มความสปอร์ตและเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยสเกิร์ตดีไซน์พิเศษ ที่มาพร้อมลายเคฟลาร์และโลโก้ “X” ที่โดดเด่น
สเกิร์ตข้างดีไซน์เฉพาะตัว: เสริมความกลมกลืนและแอโรไดนามิกของตัวรถ ให้ภาพรวมดูสปอร์ตและปราดเปรียวยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารที่ปลุกเร้าอารมณ์สปอร์ต:
ภายในห้องโดยสารของ Isuzu X-Series ได้รับการออกแบบมาเพื่อสะท้อนความสปอร์ตอย่างเต็มที่
เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตทูโทนดำ-แดง พร้อมโลโก้ X: ไม่เพียงแค่สวยงามและมีสไตล์ แต่ยังมอบความรู้สึกกระชับและพร้อมสำหรับการขับขี่ที่เร้าใจในทุกเส้นทาง
ขุมพลังดีเซลอันเป็นตำนาน: แกร่ง ประหยัด ทนทานยิ่งขึ้นในปี 2025
หัวใจสำคัญของอีซูซุ ดีแมคซ์ ที่ได้รับการยอมรับมายาวนานคือเครื่องยนต์ดีเซลอันเป็นเอกลักษณ์ ในรุ่น 2025-2026 นี้ ได้รับการปรับจูนและพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพื่อตอบสนองมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด ทั้งในด้านพละกำลัง การประหยัดน้ำมัน และความทนทานที่เป็นตำนาน
เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Turbo รหัส RZ4F-TC:
รายละเอียดทางเทคนิค: เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2,164 ซีซี พร้อมระบบหัวฉีดแรงดันสูง 250 MPa ผ่านราง Commonrail และ Intercooler ที่ทำงานร่วมกับระบบอัดอากาศ E-VGS Turbo (ควบคุมด้วยไฟฟ้า)
สมรรถนะ: ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง: จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมโหมด +/- REV Tronic และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
เชื้อเพลิง: รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด Biodiesel B20
การวิเคราะห์: เครื่องยนต์ 2.2 ลิตรนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การขับขี่ในเมือง หรือการบรรทุกที่ไม่หนักมากนัก ด้วยแรงบิดที่มาตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้การออกตัวและการเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ ประกอบกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่นและประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความประหยัด ความคล่องตัว และความทนทานในคันเดียว เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย
เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร Turbo รหัส 4JJ3-TCX:
รายละเอียดทางเทคนิค: เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2,999 ซีซี พร้อมระบบหัวฉีดแรงดันสูง 250 MPa ผ่านราง Commonrail และ Intercooler ที่ทำงานร่วมกับระบบอัดอากาศ VGS Turbo
สมรรถนะ: ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง: จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด +/- REV Tronic และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
เชื้อเพลิง: รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด Biodiesel B20
การวิเคราะห์: สำหรับผู้ที่ต้องการพละกำลังที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกของหนัก การลากจูง หรือการขับขี่บนเส้นทางที่ต้องการสมรรถนะสูง เครื่องยนต์ 3.0 ลิตรคือทางเลือกที่ทรงพลัง ด้วยแรงม้าและแรงบิดที่มากกว่า มอบอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมและความมั่นใจในทุกการเดินทางบนท้องถนน แม้จะเป็นเกียร์ 6 จังหวะ แต่ด้วยการปรับจูนที่ลงตัว ทำให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองได้ทันใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะคู่ใจสำหรับการใช้งานที่หนักหน่วงและต้องการสมรรถนะที่ไว้วางใจได้
บทสรุป: หนึ่งเดียวที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในปี 2025
อีซูซุ ดีแมคซ์ 2025-2026 คือบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของอีซูซุในการพัฒนายนตรกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย ภายในที่สะดวกสบายและหรูหรา เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก และขุมพลังดีเซลที่ได้รับการยอมรับ ทุกองค์ประกอบถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยที่รักอิสระ ผู้ที่ต้องการรถกระบะคู่ใจสำหรับครอบครัว หรือผู้ที่หลงใหลในความสปอร์ตและสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร อีซูซุ ดีแมคซ์ 2025-2026 มีรุ่นที่ใช่สำหรับคุณอย่างแน่นอน และนี่คือ “THE ONE & ONLY” ที่พร้อมจะพาคุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง พร้อมกับเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนชีวิตของคุณในโลกปี 2025 อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีสไตล์
