Leapmotor B10: ปรากฏการณ์ใหม่ของ B-SUV ไฟฟ้าที่จะพลิกโฉมตลาดไทยปี 2025
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่มีประสบการณ์มากว่า 10 ปี ผมได้เฝ้าจับตาดูพัฒนาการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และในปี 2025 นี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง เมื่อผู้เล่นหน้าใหม่และหน้าเก่าต่างพากันนำเสนอนวัตกรรมและทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หนึ่งในดาวเด่นที่กำลังสร้างความฮือฮาและเป็นที่จับตามองอย่างมากคือ Leapmotor B10 (ลีปมอเตอร์ B10) รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV น้องใหม่จากค่าย Leapmotor ที่พร้อมจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มราคาที่เข้าถึงได้
การเข้ามาของ Leapmotor B10 ไม่ใช่แค่การเพิ่มทางเลือกในตลาด แต่เป็นการประกาศศักยภาพของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ก้าวหน้าไปไกล และพร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าความคาดหมาย ด้วยจุดเด่นด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี และราคาที่เข้าถึงง่าย ทำให้ Leapmotor B10 กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า ราคาประหยัด แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพและนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม B-SUV ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
การขยายพอร์ตโฟลิโอและวิสัยทัศน์ของ Leapmotor ในประเทศไทย
Leapmotor ประเทศไทย โดย PNA Group (พระนครยนตรการ) ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับสิทธิ์จัดจำหน่ายจากกลุ่ม Stellantis ได้เริ่มบุกตลาดไทยด้วย Leapmotor C10 ไปแล้วก่อนหน้านี้ แม้ว่า C10 จะมาพร้อมจุดเด่นด้านช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาและปรับจูนโดยทีมวิศวกรจาก Maserati ซึ่งสร้างความประทับใจในด้านการขับขี่ แต่ยอดขายอาจยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังในระยะแรก อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้ทำให้ Leapmotor หยุดยั้งที่จะผลักดันนวัตกรรมและขยายฐานลูกค้าในประเทศไทย
Leapmotor B10 จึงถูกวางตำแหน่งให้เป็นอีกหนึ่งความหวังสำคัญ ที่จะเข้ามาเสริมทัพและเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด แต่ยังคงให้พื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ด้วยการเปิดตัวที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ปลายปี 2024 และพร้อมส่งมอบเต็มที่ในปี 2025 นี้ ทำให้ B10 มีเวลาในการพิสูจน์ตัวเองในตลาด B-SUV ไฟฟ้า ที่มีการแข่งขันสูงมากในปัจจุบัน การเดิมพันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Leapmotor ในการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นใหม่ 2025 ของไทย
ดีไซน์ภายนอก: ความลงตัวของความสปอร์ตและความทันสมัย
Leapmotor B10 มาพร้อมมิติที่ลงตัวสำหรับการใช้งานในเมืองและการเดินทาง ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาภายใต้แนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานความสปอร์ตเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ด้วยความยาว 4,515 มิลลิเมตร กว้าง 1,885 มิลลิเมตร และสูง 1,655 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดถึงพื้น 170 มิลลิเมตร ทำให้ B10 มีสัดส่วนที่เหมาะสมกับการเป็น B-SUV ที่คล่องตัวแต่ยังคงความภูมิฐาน
เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับรุ่นพี่อย่าง C10 ที่มีขนาดใหญ่กว่า (4,739 x 1,900 x 1,680 มม. | ฐานล้อ 2,825 มม.) B10 แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบให้เป็นรถที่เข้าถึงง่ายขึ้น กระฉับกระเฉงกว่า เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป แต่ยังคงให้พื้นที่ภายในที่น่าประทับใจ ล้ออัลลอย Star Sports ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 225/50 R18 ไม่เพียงเสริมความงามสง่า แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ทำให้การขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น การออกแบบภายนอกของ B10 จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดสายตาและสร้างความโดดเด่นบนท้องถนน
สมรรถนะและขุมพลังขับเคลื่อน: หัวใจสำคัญของประสบการณ์ EV
หัวใจหลักที่ทำให้ Leapmotor B10 เป็นที่น่าจับตามองคือ สมรรถนะ รถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าประทับใจ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร มอบการตอบสนองที่ฉับไวและอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและยังให้ความสนุกในการขับขี่บนทางหลวงได้เป็นอย่างดี ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. ก็เพียงพอต่อการเดินทางไกลในประเทศไทย
Leapmotor B10 มีทางเลือกแบตเตอรี่ 2 ขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน:
รุ่น LIFE 56.2 kWh: มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) จาก CATL ขนาดความจุ 56.2 kWh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและปลอดภัย ให้ระยะทางการขับขี่สูงสุด 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและเดินทางในระยะกลางได้อย่างสบายใจ
รุ่น STYLE / DESIGN 67.1 kWh: สำหรับผู้ที่ต้องการระยะทางขับขี่ที่ไกลยิ่งขึ้น รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) ขนาดความจุ 67.1 kWh สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 516 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทาง และเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางข้ามจังหวัด
การเลือกใช้แบตเตอรี่ LFP จาก CATL ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำระดับโลก ถือเป็นการรับประกันถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ใน แบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้า ของ Leapmotor B10 ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้กังวล
ระบบชาร์จไฟฟ้า: สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคพิจารณาในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือความสะดวกสบายและรวดเร็วของระบบชาร์จ Leapmotor B10 ตอบโจทย์นี้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยความสามารถในการรองรับการชาร์จทั้งกระแสสลับ (AC) และกระแสตรง (DC):
การชาร์จ AC: รองรับสูงสุด 11 kW ทำให้การชาร์จที่บ้านหรือสถานีชาร์จสาธารณะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การชาร์จ DC Fast Charging:
รุ่น Life 56.2 kWh รองรับสูงสุด 140 kW
รุ่น Style/Design 67.1 kWh รองรับสูงสุด 168 kW
ด้วย ชาร์จเร็ว EV นี้ ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่จาก 30-80% สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 18-20 นาที ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการรอคอยได้อย่างมาก และเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไกล
นอกจากนี้ Leapmotor B10 ยังมาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอกแบบ V2L (Vehicle-to-Load) สูงสุด 3.3 kW ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการทำกิจกรรมนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการแคมป์ปิ้ง หรือการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในกรณีฉุกเฉิน ทำให้ B10 ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่ยังเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้อีกด้วย
ช่วงล่างและการขับขี่: ความสบายและความมั่นใจ
การขับขี่ที่ดีไม่ได้มาจากแค่พละกำลังของมอเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกแบบช่วงล่างที่ดีเยี่ยม Leapmotor B10 มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ MacPherson Strut และด้านหลังแบบอิสระ 4-Links ซึ่งเป็นชุดช่วงล่างที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการโดยสารและความมั่นคงในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี การผสมผสานนี้ทำให้ B10 สามารถรับมือกับสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางไกลที่ต้องการความมั่นคงและนุ่มนวล
แม้จะไม่ได้ระบุว่าได้รับการปรับจูนจาก Maserati โดยตรงเหมือนรุ่น C10 แต่ด้วยพื้นฐานการออกแบบที่แข็งแกร่งและประสบการณ์ของ Leapmotor คาดการณ์ได้ว่า B10 จะมอบ ประสบการณ์ขับขี่ EV ที่น่าประทับใจ ให้ความรู้สึกมั่นคง เกาะถนน และตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ เหมาะสมกับการใช้งานในทุกสถานการณ์
ภายในห้องโดยสาร: เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Leapmotor B10 คุณจะพบกับความประณีตและการจัดวางที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก การออกแบบที่ทันสมัยผสมผสานเข้ากับ เทคโนโลยี EV ล่าสุดได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ
ความโปร่งโล่งสบาย: ด้วยหลังคากระจก Panoramic Roof แบบ Fixed พร้อมม่านบังแดดที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งและเชื่อมโยงกับภายนอกได้เป็นอย่างดี
ระบบปรับอากาศอัจฉริยะ: ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองฝุ่น PM 2.5 ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอากาศภายในห้องโดยสารจะบริสุทธิ์และสดชื่นอยู่เสมอ
กุญแจอัจฉริยะ: ระบบกุญแจ Bluetooth และ NFC Card มอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงและสตาร์ทรถ
เบาะนั่งเพื่อสุขภาพ: เบาะนั่งโครงสร้าง 7 ชั้น ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน OEKO-TEX Certification ช่วยให้มั่นใจได้ถึงวัสดุที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มอบความสบายแม้ในการเดินทางไกล โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถแยกพับอิสระ 60:40 และพับได้เรียบ เพิ่มความยืดหยุ่นในการบรรทุกสัมภาระ
แผงควบคุมและหน้าจอ:
จอมาตรวัด Full Digital LCD แบบสี ขนาด 8.8 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจน
หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touchscreen ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและภาพที่คมชัด
รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย (Wireless) โดยจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงธันวาคม 2025 ซึ่งถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ระบบแผนที่นำทาง Here Map ให้ข้อมูลเส้นทางที่แม่นยำ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก: ลำโพง 6 ตำแหน่ง (12 ตำแหน่งในรุ่น Design) เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม, ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger 15W, และช่องชาร์จ USB Type C 60W
ระบบความปลอดภัยและ ADAS: มั่นใจทุกการเดินทาง
Leapmotor B10 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้สมรรถนะที่ดีและห้องโดยสารที่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย ด้วยชุด ระบบความปลอดภัย ADAS ที่ครอบคลุม และนับเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ B10 เหนือกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน:
ระบบเบรก ABS / EBD / BA
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC (Vehicle Dynamic Control)
ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC (Traction Control System)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HHC (Hill Hold Control)
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาด BOS (Brake Override System)
ระบบสัญญาณเตือนหยุดรถฉุกเฉิน ESS (Emergency Signal System)
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชัน AVH (Auto Vehicle Hold)
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-กลางเบาะคู่หน้า)
กล้องรอบคัน 360 องศา และเซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง
ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับ L2 (Semi-Autonomous L2) และ ADAS:
Leapmotor B10 มาพร้อมเรดาร์ Ultrasonic 4 ตัว และเซนเซอร์ MMW 2 ตัว ทำงานร่วมกันเพื่อมอบระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครอบคลุม:
ACC (Adaptive Cruise Control): ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
LCC (Lane Centering Control) และ LKA (Lane Keeping Assist): ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลนและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ช่วยให้รถขับขี่ในเลนได้อย่างมั่นคง
ELKA (Emergency Lane Keeping Assist): ระบบควบคุมรถฉุกเฉินให้อยู่ในเลน ช่วยป้องกันการเปลี่ยนเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
LDW (Lane Departure Warning): ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
FCW (Front Collision Warning) และ AEB (Advanced Emergency Braking): ระบบเตือนการชนด้านหน้าและระบบเบรกอัตโนมัติฉุกเฉิน ช่วยลดความเสี่ยงจากการชน
RCW (Rear Collision Warning) และ RCTB (Rear Cross Traffic Braking): ระบบเตือนการชนด้านหลังและระบบเบรกอัตโนมัติด้านหลังเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอย
DOW (Doors Open Warning): ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูรถในขณะที่มีวัตถุเคลื่อนที่เข้ามาใกล้
BSD (Blind Spot Detection): ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตา
HOD (Hands Off Detection): ระบบตรวจจับการปล่อยมือบนพวงมาลัย
RCTA (Rear Cross Traffic Alert): ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง
ISA (Intelligent Speed Assist): ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ
DDAW (Driver Drowsiness Attention Warning) และ ADDW (Advanced Driver Distraction Warning): ระบบตรวจจับและเตือนเมื่อคนขับเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิ
ชุดระบบ ADAS ที่ครบครันเหล่านี้ ไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร แต่ยังช่วยลดภาระในการขับขี่ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างผ่อนคลายและมั่นใจมากยิ่งขึ้น
รุ่นย่อยและราคา: ความคุ้มค่าที่สัมผัสได้
Leapmotor B10 เวอร์ชั่นไทย (นำเข้า CBU จากจีน) มีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย ซึ่งแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน มอบ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ในราคาที่เข้าถึงได้
B10 Life 56.2 kWh: ราคา 688,000 บาท
เป็นรุ่นเริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยแบตเตอรี่ 56.2 kWh และระยะทางขับขี่ 470 กม. (NEDC) มาพร้อมกับฟังก์ชันพื้นฐานที่จำเป็นครบครัน
B10 Style 67.1 kWh: ราคา 748,000 บาท
รุ่นกลางที่เพิ่มความจุแบตเตอรี่เป็น 67.1 kWh ให้ระยะทางขับขี่ที่ไกลขึ้นเป็น 516 กม. (NEDC) และรองรับการชาร์จ DC ที่สูงขึ้นเป็น 168 kW พร้อมกระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฝ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทางไกล
B10 Design 67.1 kWh: ราคา 788,000 บาท
รุ่นท็อปสุดที่ยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกระจกหน้าต่างด้านหลังแบบ Privacy Glass, กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ, ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 64 สี, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor, ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ECO Leather, เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศและระบบอุ่น Heated Seats, ที่วางแขนเบาะนั่งด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว และลำโพง 12 ตำแหน่ง รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสุดยอดของความหรูหราและเทคโนโลยีในราคาที่ยังคงเข้าถึงได้
ด้วยโครงสร้างราคาที่น่าดึงดูดใจนี้ Leapmotor B10 จึงพร้อมที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า วิ่งไกล และ B-SUV ไฟฟ้า ในประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้นในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า
บทสรุป: Leapmotor B10 พลิกโฉมวงการ EV ไทยปี 2025
Leapmotor B10 เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ที่เข้ามาในตลาดไทย แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะที่โดดเด่น ระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจ ระบบความปลอดภัย ADAS ที่ครบครัน และราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ B10 มีศักยภาพสูงที่จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา รีวิว รถยนต์ไฟฟ้า และมองหา รถยนต์ไฟฟ้า ราคาประหยัด ที่มาพร้อมคุณสมบัติระดับพรีเมียม
สำหรับ PNA Group และ Leapmotor B10 ถือเป็นเดิมพันครั้งสำคัญที่จะตอกย้ำความมุ่งมั่นในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความคุ้มค่า และการตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ทำให้ Leapmotor B10 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง และน่าจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาด B-SUV ไฟฟ้า ของไทยได้อย่างแน่นอน หากคุณกำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า รุ่นใหม่ 2025 ที่จะพาคุณก้าวเข้าสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว Leapmotor B10 คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม

