Chery Tiggo 9 PHEV: ยานยนต์เรือธงแห่งอนาคต สู่มิติใหม่ของเอสยูวีระดับพรีเมียม
นับตั้งแต่ปี 2024 ที่ผ่านมา วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการก้าวขึ้นมาอย่างโดดเด่นของแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ความคุ้มค่าด้านราคาอีกต่อไป แต่กลับอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง และดีไซน์ที่หรูหราทัดเทียมรถยุโรปชั้นนำ และในปี 2025 นี้ กระแสความร้อนแรงก็ยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง Chery (เชอรี่) หนึ่งในผู้เล่นหลักจากแดนมังกร ที่พร้อมส่งสัญญาณความทะเยอทะยานอย่างชัดเจน ด้วยการเตรียมเปิดตัวรถยนต์เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดในตลาดโลก และมีแผนจะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงปลายปี 2026 นั่นคือ Chery Tiggo 9 PHEV (เชอรี่ ทิกโก้ 9 PHEV) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นรถยนต์ SUV ที่ใหญ่ หรู และแรงที่สุดเท่าที่ Chery เคยผลิตมา นี่คือการประกาศศักดาที่จะมาท้าชนกับเจ้าตลาดเอสยูวีอย่างเต็มตัว พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์กลุ่มนี้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่า 10 ปี ผมได้ติดตามพัฒนาการของ Chery อย่างใกล้ชิด และได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ Chery Tiggo 9 PHEV ในประเทศจีน ด้วยระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตร ซึ่งทำให้ผมได้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของรถคันนี้ บทความนี้จะพาทุกท่านไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ Chery Tiggo 9 PHEV ตั้งแต่ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีห้องโดยสารสุดล้ำไปจนถึงขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดอันทรงประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณได้เตรียมพร้อมรับมือกับยานยนต์แห่งอนาคตที่จะเข้ามาเขย่าบัลลังก์ในตลาดรถยนต์ SUV ของไทย
การออกแบบภายนอก: ผสมผสานความดุดัน สง่างาม และความหรูหรา
สิ่งแรกที่สะกดทุกสายตาเมื่อได้เห็น Chery Tiggo 9 PHEV คือการออกแบบภายนอกที่ดูพรีเมียมและทรงพลังในทุกมิติ มันสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่ยกระดับแบรนด์ Chery ขึ้นไปอีกขั้น ดีไซน์โดยรวมนั้นมีความลงตัวระหว่างเส้นสายที่คมชัดและความโค้งมนที่ให้ความรู้สึกหรูหรา โดยไม่ทิ้งความเป็นรถ SUV ที่พร้อมลุยในทุกสภาพถนน
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงหลายเหลี่ยมขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า “Waterfall Grille” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตกแต่งด้วยโครเมียมที่ให้ความรู้สึกหรูหราและมีมิติ ชุดไฟหน้าที่เพรียวบางถูกจัดวางอย่างประณีต พร้อมไฟ DRL (Daytime Running Light) แบบ LED ที่เฉียบคม ผสานเข้ากับช่องรับลมดีไซน์สปอร์ต ทำให้ด้านหน้าดูดุดัน โอ่อ่า และมีเสน่ห์ดึงดูดใจคล้ายคลึงกับรถยนต์ SUV ระดับพรีเมียมจากฝั่งยุโรปหลายรุ่น
เมื่อมองจากด้านข้าง Chery Tiggo 9 PHEV มีเส้นสายที่ดูยาวและปราดเปรียวเป็นพิเศษ ด้วยการใช้หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) ที่ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวทันสมัย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับมือจับประตูแบบซ่อน (Flush Door Handles) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในรถหรูหลายแบรนด์ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูเรียบหรูแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ได้อีกด้วย ล้ออัลลอยดีไซน์หรูหราขนาดใหญ่ที่ติดตั้งมาให้ ก็ช่วยเสริมให้ตัวรถดูสง่างามและมั่นคงมากยิ่งขึ้น
สำหรับด้านท้ายนั้นก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมชุดไฟท้ายแบบ LED ที่ลากยาวเต็มความกว้างของตัวรถ (Full-width LED Taillight) ซึ่งเป็นเทรนด์การออกแบบที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน นอกจากจะให้ความสวยงามและทันสมัยแล้ว ยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดีให้กับรถคันหลังอีกด้วย ปิดท้ายด้วยท่อไอเสียคู่ที่ช่วยเสริมลุคสปอร์ตและความแข็งแกร่งให้กับ Chery Tiggo 9 PHEV ได้อย่างลงตัว
ในด้านมิติตัวถัง Chery Tiggo 9 PHEV มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล Chery ณ ปัจจุบัน ด้วยความยาวถึง 4,820 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,820 มิลลิเมตร ซึ่งใหญ่กว่า Tiggo 8 อย่างชัดเจน การขยายขนาดของตัวรถส่งผลให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ รองรับการใช้งานแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายในรุ่น 7 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายรถครอบครัวขนาดใหญ่ที่มองหารถ SUV ที่ทั้งหรูหรา กว้างขวาง และเต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี
ห้องโดยสารสุดล้ำ: ผสานความหรูหรา เทคโนโลยี และความสะดวกสบาย
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Chery Tiggo 9 PHEV คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่หรูหราและล้ำสมัยในทันที การออกแบบภายในถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียม โทนสีน้ำตาล-ขาวที่ใช้ในการตกแต่งภายใน ผสมผสานกับการประดับด้วยลายไม้ และการเดินด้ายสีทองตามจุดต่างๆ สร้างความรู้สึกอบอุ่น มีระดับ และสง่างาม ซึ่งเป็นสไตล์ที่มักพบเห็นในรถยนต์ Luxury SUV ระดับสูง
ไฮไลท์ที่โดดเด่นที่สุดของห้องโดยสารคือ หน้าจอคู่ดีไซน์โค้งขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียว ซึ่งเป็นทั้งแผงหน้าปัดดิจิทัลและระบบอินโฟเทนเมนต์ หน้าจอคู่นี้ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลระดับท็อปอย่าง Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้การทำงานของระบบเป็นไปอย่างรวดเร็ว ลื่นไหล และตอบสนองทุกคำสั่งได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งเป็นมาตรฐานการสื่อสารยุคใหม่ ทำให้รถยนต์สามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA (Over-The-Air) การเข้าถึงบริการออนไลน์ต่างๆ หรือแม้แต่การสตรีมมิ่งความบันเทิงความละเอียดสูง ก็สามารถทำได้อย่างราบรื่น
การออกแบบแผงควบคุมภายในห้องโดยสาร เน้นความเรียบง่ายด้วยจำนวนปุ่มควบคุมที่น้อยชิ้น โดยส่วนใหญ่จะถูกรวมเข้าไว้ในระบบหน้าจอสัมผัส และปุ่มควบคุมแบบสัมผัสที่พวงมาลัยและหัวเกียร์ ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นความทันสมัยและความใช้งานง่าย อย่างไรก็ตาม Chery ก็ยังคงรักษาปุ่มกดที่จำเป็นบางส่วนไว้ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานขณะขับขี่
สำหรับระบบความบันเทิง Chery Tiggo 9 PHEV จัดเต็มด้วยระบบเสียงรอบทิศทางจาก SONY พร้อมลำโพงถึง 14 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและสมจริง ประหนึ่งกำลังฟังคอนเสิร์ตส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีไฟ Ambient Light ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้มากถึง 255 สี ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เข้ากับอารมณ์และสไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะต้องการความสดใส ความผ่อนคลาย หรือความหรูหรา ก็สามารถเลือกได้ตามต้องการ
ช่องแอร์ดีไซน์ทรงกลมที่มีจำนวนมากถึง 27 ช่อง ถูกจัดวางอย่างชาญฉลาด เพื่อกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ไม่ว่าผู้โดยสารจะนั่งอยู่ตำแหน่งใด ก็จะได้รับความเย็นสบายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ เบาะนั่งยังถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อรองรับสรีระของผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแม้ในเดินทางไกล โดยเฉพาะเบาะนั่งแถวที่สามในรุ่น 7 ที่นั่ง ที่ยังคงให้พื้นที่และความสะดวกสบายที่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน
ขุมพลัง PHEV อันทรงพลัง: สมรรถนะเหนือชั้น ประหยัดเชื้อเพลิง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Chery Tiggo 9 PHEV คือการก้าวสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) ที่ผสมผสานความแรงของเครื่องยนต์สันดาปภายในเข้ากับความเงียบและความสะอาดของมอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับตลาดประเทศไทย Chery ได้เลือกนำเสนอเฉพาะรุ่นปลั๊กอินไฮบริดเท่านั้น ซึ่งเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มหันมาสนใจรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
หัวใจสำคัญของ Chery Tiggo 9 PHEV คือระบบส่งกำลัง Kunpeng Super Intelligent Hybrid ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขนาดใหญ่ และแบตเตอรี่ความจุ 19.43 kWh การทำงานร่วมกันนี้มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 619 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 920 นิวตันเมตร ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เทียบเท่ากับรถยนต์ซูเปอร์คาร์หลายรุ่นในตลาดปัจจุบัน
ด้วยพละกำลังที่เหนือชั้น ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อย่างน่าเหลือเชื่อภายในเวลาเพียง 4.5 วินาที เท่านั้น ซึ่งเป็นสมรรถนะที่หาได้ยากในรถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ นับเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของรถยนต์ที่ไม่ได้มีดีแค่ความหรูหรา แต่ยังมาพร้อมความสปอร์ตเร้าใจอย่างเต็มเปี่ยม
นอกเหนือจากความแรงแล้ว ประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานก็เป็นจุดเด่นสำคัญ ด้วยความสามารถในการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode) เป็นระยะทางไกลพอสมควรสำหรับการใช้งานในเมือง และเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในโหมดไฮบริด (Hybrid Mode) ตัวรถสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 1,200 กิโลเมตร จากการทดสอบขับจริง (ซึ่งตัวเลขเคลมไว้อยู่ที่ 1,300 กิโลเมตร) ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางไกล
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Intelligent All-Wheel Drive) ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Aisin 8 สปีด ช่วยให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะขับขี่บนสภาพถนนแบบใด ก็สามารถมั่นใจได้ถึงการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือกว่า นอกจากนี้ Chery Tiggo 9 PHEV ยังรองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 18 นาที ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและลดเวลาการรอคอยได้อย่างมาก
ช่วงล่าง CDC: ความนุ่มนวลดุจพรม ผสานการยึดเกาะระดับเทพ
หนึ่งในเทคโนโลยีที่ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV แตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งคือ ระบบช่วงล่างแบบ CDC (Continuous Damping Control) หรือระบบช่วงล่างไฟฟ้าที่สามารถปรับความแข็ง-อ่อนของโช้คอัพได้แบบ Real-time ด้วยความถี่สูงถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นการทำงานที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพอย่างมหาศาล
ระบบ CDC นี้จะใช้เซ็นเซอร์หลายตัวในการตรวจจับสภาพถนน ความเร็วรถ และพฤติกรรมการขับขี่อย่างต่อเนื่อง จากนั้นจะประมวลผลและส่งสัญญาณไปยังโช้คอัพแต่ละตัว เพื่อปรับการหน่วงให้เหมาะสมที่สุดในแต่ละเสี้ยววินาที ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์การขับขี่ที่ผสมผสานระหว่างความนุ่มนวลและมั่นคงได้อย่างลงตัว
Chery เคลมว่าระบบ CDC สามารถเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ได้ถึง 74.8% ลดอาการโคลงของตัวรถลงได้กว่า 50% และยังช่วยเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสาร รวมถึงเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 30% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับระบบช่วงล่างแบบทั่วไป การขับขี่บนถนนขรุขระจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลราวกับนั่งอยู่บนพรม ขณะที่การเข้าโค้งด้วยความเร็ว ก็ยังคงให้ความรู้สึกมั่นคงและควบคุมได้แม่นยำ นี่คือสิ่งที่ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ และสะท้อนถึงการเป็นรถยนต์ SUV ระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง
ระบบความปลอดภัยและผู้ช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (ADAS)
ในฐานะรถยนต์เรือธงแห่งปี 2025-2026 Chery Tiggo 9 PHEV ย่อมไม่ละเลยเรื่องความปลอดภัย ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถมั่นใจได้ถึงการปกป้องสูงสุด ด้วยชุดระบบความปลอดภัยและผู้ช่วยในการขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver-Assistance Systems – ADAS) ที่ครอบคลุม
ชุด ADAS ใน Chery Tiggo 9 PHEV คาดว่าจะประกอบด้วยฟังก์ชันสำคัญ อาทิ:
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control – ACC): ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ และปรับความเร็วตามสภาพการจราจร
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist – LKA): ช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน ลดความเสี่ยงในการออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring – BSM): แจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา เพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Forward Collision Warning with Autonomous Emergency Braking – FCW/AEB): ตรวจจับความเสี่ยงในการชนและสามารถเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความรุนแรงของการชน
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360-degree Surround View Camera): ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน อำนวยความสะดวกในการจอดรถในพื้นที่จำกัด
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Automatic Parking Assist): ช่วยนำรถเข้าจอดในช่องว่างได้อย่างง่ายดาย
ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกการเดินทาง แต่ยังช่วยลดภาระของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในการเดินทางไกลหรือในสภาพการจราจรที่ติดขัด ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV เป็นรถยนต์ SUV ที่มอบความอุ่นใจและสะดวกสบายอย่างแท้จริง
ตำแหน่งทางการตลาดและวิสัยทัศน์ของ Chery ในประเทศไทย
Chery Tiggo 9 PHEV ไม่ใช่แค่รถยนต์รุ่นใหม่ แต่คือการประกาศศักดาครั้งสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์รถยนต์จากจีนในปัจจุบัน ไม่ได้มีดีแค่ราคาอีกต่อไป แต่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง และความพรีเมียมที่พร้อมจะแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี
การที่ Chery เลือกนำเสนอ Tiggo 9 ในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดสำหรับตลาดไทยนั้น เป็นการตอกย้ำถึงความเข้าใจในเทรนด์และข้อกำหนดของตลาดภายในประเทศ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดถือเป็นสะพานเชื่อมที่ยอดเยี่ยมระหว่างรถยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิมกับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มอบความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทั้งการขับขี่ด้วยไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน และการเดินทางไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จ
เมื่อ Chery Tiggo 9 PHEV เตรียมลงสนามแข่งในบ้านเราตามติด Tiggo 8 มาแบบไม่ห่าง และคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2026 นี้ มันจะเข้ามาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตาในตลาด SUV ขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีรถยนต์จากญี่ปุ่น เกาหลี และยุโรปเป็นเจ้าตลาดอยู่เดิม ด้วยจุดเด่นด้านขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า และสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่า ในราคาที่คาดว่าจะสามารถแข่งขันได้อย่างดุเดือด Chery Tiggo 9 PHEV จะมอบ “คุณค่าที่เหนือกว่า” ให้กับผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ SUV ที่ทั้งหรูหรา กว้างขวาง มีเทคโนโลยีครบครัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเทียบเท่ารถยุโรป
วิสัยทัศน์ของ Chery ชัดเจนว่าต้องการขึ้นมาเป็นผู้เล่นหลักในตลาดโลก และ Chery Tiggo 9 PHEV คือเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนั้น ด้วยความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง และการออกแบบที่โดนใจผู้บริโภคทั่วโลก Chery กำลังสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันและอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
บทสรุป
Chery Tiggo 9 PHEV คือมากกว่าแค่รถยนต์ SUV ทั่วไป แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา สปอร์ต เทคโนโลยี และความยั่งยืน ด้วยดีไซน์ที่ดุดันสง่างาม ห้องโดยสารที่ล้ำสมัย ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงประสิทธิภาพ และช่วงล่างอัจฉริยะ CDC ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์ SUV ระดับพรีเมียม และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือความคาดหมาย
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง รองรับการใช้งานของครอบครัวขนาดใหญ่ พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Chery Tiggo 9 PHEV คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เตรียมตัวพบกับยานยนต์แห่งอนาคตคันนี้ได้ในช่วงปลายปี 2026 อย่างแน่นอน การมาถึงของ Chery Tiggo 9 PHEV จะสร้างความตื่นเต้นและมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ SUV ของประเทศไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

