Chery Tiggo 9 PHEV: ยานยนต์เรือธงแห่งอนาคต ที่ redefined คำว่า SUV พรีเมียม
ในโลกยานยนต์ปี 2025 ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวล้ำไปอย่างไม่หยุดยั้ง การแข่งขันในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมียมนั้นดุเดือดกว่าที่เคย แบรนด์ชั้นนำต่างพากันงัดไม้เด็ดเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด หนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตาและพร้อมประกาศศักดาอย่างเต็มภาคภูมิคือ Chery ด้วยการเปิดตัว Chery Tiggo 9 PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) รถยนต์เรือธงรุ่นล่าสุด ที่ไม่ได้เป็นเพียงการก้าวข้ามขีดจำกัดของ Chery เท่านั้น แต่ยังเป็นการ “redefine” มาตรฐานใหม่ของ SUV ที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะอันทรงพลัง และเทคโนโลยีสุดล้ำเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมมองว่า Chery Tiggo 9 PHEV ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์รุ่นใหม่ แต่คือคำประกาศเจตจำนงที่ชัดเจนของ Chery ในการก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกอย่างเต็มตัว ด้วยปรัชญาการออกแบบและวิศวกรรมที่มุ่งเน้นความพรีเมียมเหนือระดับ สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ และประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัย ผมจะพาทุกท่านเจาะลึกทุกแง่มุมของยานยนต์แห่งอนาคตคันนี้ เพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุใด Chery Tiggo 9 PHEV จึงเป็นทางเลือกที่ไม่อาจมองข้ามในตลาดรถยนต์ SUV ระดับหรู
ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่มาพร้อมความดุดันและทันสมัย
ตั้งแต่แรกเห็น Chery Tiggo 9 PHEV ก็สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบภายนอกที่ผสมผสานความสง่างามแบบรถยนต์ยุโรปเข้ากับความดุดันและทันสมัยได้อย่างลงตัว ด้วยมิติตัวถังขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกถึงความโอ่อ่าและความมั่นคง มิติความยาวที่ 4,820 มม. และระยะฐานล้อที่ 2,820 มม. ทำให้ Tiggo 9 PHEV ก้าวขึ้นเป็น SUV ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางที่สุดในตระกูล Tiggo ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับรถยนต์ครอบครัวขนาดใหญ่ที่กำลังมองหาความสะดวกสบายสูงสุด
ด้านหน้าของตัวรถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ “Waterfall Grille” อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสายน้ำที่ไหลหลั่ง ให้ความรู้สึกหรูหราและมีมิติ ด้วยลวดลายโครเมียมที่ประณีต เส้นสายของกระจังหน้าถูกผสานเข้ากับชุดไฟหน้า LED แบบเพรียวบางที่ใช้เทคโนโลยี Matrix LED ล่าสุด มอบทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยมและสร้างบุคลิกที่คมเข้ม ช่องรับลมดีไซน์สปอร์ตด้านล่างช่วยเสริมลุคให้ดูดุดันและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนของเครื่องยนต์และแบตเตอรี่
เมื่อมองจากด้านข้าง Chery Tiggo 9 PHEV เผยให้เห็นเส้นสายที่ยาวและปราดเปรียว ด้วยหลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof Design) ที่สร้างความรู้สึกกว้างขวางและทันสมัย มือจับประตูแบบซ่อน (Flush Door Handles) ซึ่งพบได้ในรถยนต์หรูระดับโลก ช่วยเพิ่มความลื่นไหลของอากาศพลศาสตร์และยกระดับความพรีเมียมให้กับตัวรถอย่างเห็นได้ชัด ล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ดีไซน์สปอร์ต ไม่เพียงเสริมความแข็งแกร่งของตัวรถ แต่ยังบ่งบอกถึงสมรรถนะที่ซ่อนอยู่ภายใน
ส่วนท้ายของรถไม่ได้น้อยหน้า ด้วยชุดไฟท้าย LED แบบ Full-width ที่ทอดยาวเต็มความกว้างของตัวรถ สร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์เมื่อมองเห็นในยามค่ำคืน ท่อไอเสียคู่ที่ถูกจัดวางอย่างลงตัว ตอกย้ำภาพลักษณ์ของรถ SUV สมรรถนะสูงที่พร้อมลุยในทุกเส้นทาง ด้วยองค์ประกอบการออกแบบทั้งหมดนี้ Chery Tiggo 9 PHEV จึงเป็นยานยนต์ที่ไม่ได้มอบเพียงฟังก์ชันการใช้งาน แต่ยังเป็นงานศิลปะเคลื่อนที่ที่สะท้อนรสนิยมอันโดดเด่นของผู้ครอบครอง
ห้องโดยสาร: ค็อกพิตอัจฉริยะที่หลอมรวมความหรูหราและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Chery Tiggo 9 PHEV คุณจะถูกโอบล้อมด้วยบรรยากาศแห่งความหรูหรา ล้ำสมัย และความสะดวกสบายที่เหนือระดับ การเลือกใช้วัสดุพรีเมียมอย่างหนังแท้คุณภาพสูง การตกแต่งด้วยลายไม้และวัสดุโลหะที่ผ่านการขัดเงา รวมถึงการเดินด้ายสีทองอันประณีตตามจุดต่างๆ ล้วนสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดและการยกระดับมาตรฐานของ Chery อย่างแท้จริง การผสมผสานโทนสีภายในอย่างลงตัว เช่น สีน้ำตาล-ขาว ช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายตลอดการเดินทาง
หัวใจหลักของห้องโดยสารคือ “ค็อกพิตอัจฉริยะ” ที่มาพร้อมหน้าจอคู่ดีไซน์โค้งขนาดใหญ่พิเศษ ที่ผสานแผงหน้าปัดดิจิทัลและหน้าจออินโฟเทนเมนต์เข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบเนียน หน้าจอเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่จอแสดงผล แต่เป็นประตูสู่โลกดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งเป็นชิประดับท็อปสำหรับยานยนต์ ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลที่รวดเร็ว ลื่นไหล และรองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างไม่มีสะดุด การรองรับการเชื่อมต่อ 5G ยิ่งทำให้การเข้าถึงข้อมูล แผนที่แบบเรียลไทม์ และบริการออนไลน์ต่างๆ เป็นไปอย่างฉับไว ไร้ขีดจำกัด
ระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ด้วยช่องแอร์ทรงกลมจำนวนมากถึง 27 ช่อง ที่กระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงและปรับอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำในแต่ละโซน การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ถูกจัดวางอย่างเรียบง่าย โดยเน้นการสั่งการผ่านหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบนพวงมาลัยและหัวเกียร์ ซึ่งสะท้อนปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นความ “Minimalist” และ User-friendly
เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือระดับ Chery Tiggo 9 PHEV ติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทางจาก SONY พร้อมลำโพงถึง 14 ตำแหน่ง ให้คุณภาพเสียงที่คมชัดและสมจริงราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ นอกจากนี้ ไฟ Ambient Light ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 255 สี ยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เข้ากับอารมณ์และสไตล์การขับขี่ของผู้ใช้งาน เพิ่มความพิเศษในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกล ก็สามารถปรับแต่งความรู้สึกให้เป็นไปตามต้องการได้ตลอดเวลา
เบาะนั่งภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มอบความสบายสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน โดยเฉพาะรุ่น 7 ที่นั่ง ซึ่งทาง Chery ยืนยันแล้วว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จะตอบโจทย์ความต้องการของรถยนต์ครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบายที่เพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว
ขุมพลัง PHEV: สมรรถนะอันทรงพลัง ควบคู่ความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV ก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์อเนกประสงค์ คือขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) “Kunpeng Super Intelligent Hybrid” ที่รวมเอาเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดเพื่อมอบสมรรถนะสูงสุดและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่เหนือกว่า
ระบบส่งกำลังนี้สร้างพละกำลังรวมที่น่าทึ่งถึง 619 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 920 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่สวยงามบนกระดาษ แต่หมายถึงอัตราเร่งที่รวดเร็วและฉับไวอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับรถ SUV ขนาดใหญ่ ด้วยการทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.5 วินาที ซึ่งทัดเทียมกับรถสปอร์ตหลายรุ่น และเหนือกว่ารถยนต์ SUV ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัยในทุกสถานการณ์
แบตเตอรี่ขนาด 19.43 kWh มอบระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนที่น่าประทับใจ ช่วยให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันระยะสั้นๆ สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ลดค่าใช้จ่ายและลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อทำงานร่วมกันทั้งระบบ Chery Tiggo 9 PHEV สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึงประมาณ 1,200 – 1,300 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันและชาร์จแบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้ง หมดกังวลเรื่องระยะทางในการเดินทางไกล
นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ไปยัง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาที ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Intelligent 4WD) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Aisin 8 สปีด ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นคงในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนทางเรียบหรือเส้นทางที่ท้าทาย
ช่วงล่าง CDC: ความนุ่มนวลระดับพรมวิเศษ พร้อมการยึดเกาะที่เหนือกว่า
ความพิเศษของ Chery Tiggo 9 PHEV ไม่ได้หยุดอยู่แค่ขุมพลัง แต่ยังรวมถึงระบบช่วงล่างอัจฉริยะ CDC (Continuous Damping Control) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วงล่างไฟฟ้าที่สามารถปรับความแข็ง-อ่อนของโช้คอัพได้อย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ระบบนี้ใช้เซ็นเซอร์หลายตัวในการตรวจจับสภาพถนน รูปแบบการขับขี่ และน้ำหนักบรรทุก เพื่อปรับการตอบสนองของช่วงล่างให้เหมาะสมที่สุดในทุกขณะ
Chery เคลมว่าระบบ CDC นี้สามารถเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ได้ถึง 74.8% ลดอาการโคลงของตัวรถลงกว่า 50% และเพิ่มความเงียบ รวมถึงการยึดเกาะถนนขึ้นอีก 30% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนขรุขระหรือการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ผู้โดยสารจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลราวกับลอยอยู่บนพรมวิเศษ แต่ยังคงไว้ซึ่งความมั่นคงและการควบคุมที่เฉียบคม สร้างความมั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง
ในฐานะยานยนต์เรือธงแห่งปี 2025 Chery Tiggo 9 PHEV มาพร้อมกับชุดระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ครบครัน เพื่อมอบความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้โดยสารทุกคน โครงสร้างตัวถังที่ผลิตจากเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดอุบัติเหตุ พร้อมถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่งที่ปกป้องอย่างครอบคลุม
นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบ ADAS ระดับสูงที่เทียบเท่ากับรถยนต์พรีเมียมจากยุโรปหลายรุ่น อาทิ:
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control – ACC): รักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist – LKA): ช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน ลดความเสี่ยงในการออกนอกช่องทาง
ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Forward Collision Warning with Autonomous Emergency Braking – FCW & AEB): ตรวจจับและแจ้งเตือนการชนที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงหรือหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
ระบบตรวจจับวัตถุในจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring – BSM): แจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา เพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา: ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน อำนวยความสะดวกในการจอดรถหรือขับขี่ในที่แคบ
ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Intelligent Parking Assist): ช่วยนำรถเข้าจอดโดยอัตโนมัติ ลดความกังวลในการจอดในพื้นที่จำกัด
ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันเหล่านี้ Chery Tiggo 9 PHEV จึงเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่ยังเป็น “ผู้พิทักษ์” ที่คอยดูแลความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกเส้นทาง
บทสรุป: ความท้าทายครั้งสำคัญในตลาด SUV พรีเมียม
Chery Tiggo 9 PHEV คือการประกาศศักดาครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอันก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมยานยนต์จากจีน ไม่ใช่แค่เพียงการนำเสนอรถยนต์ที่มีราคาคุ้มค่าอีกต่อไป แต่เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย สมรรถนะที่เร้าใจ และความหรูหราพรีเมียมที่พร้อมจะแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์ระดับโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี
การมาถึงของ Chery Tiggo 9 PHEV ในช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 นี้ในประเทศไทย จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดรถยนต์ SUV พรีเมียม และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ครอบครัว รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ SUV พรีเมียม ที่ผสานความหรูหรา เทคโนโลยี ประสิทธิภาพ และความประหยัดได้อย่างลงตัว Chery Tiggo 9 PHEV ไม่ได้เพียงแค่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน แต่ยังก้าวข้ามทุกความคาดหวัง และพร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกมิติ เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการยานยนต์ไทยได้เลย.

