ซูบารุ เปิดตัว SUBARU FORESTER 2023 เทคโนโลยีช่วยขับขี่ EyeSight 4.0 ใหม่
SUBARU FORESTER 2023 ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อยใหม่ ราคา ได้แก่
- Forester 2.0i-L EyeSight ราคาขายปลีกแนะนำ 1,185,000 บาท ออฟชันแพค 265,000 บาท ราคารวม 1,450,000 บาท
- Forester 2.0i-S EyeSight ราคาขายปลีกแนะนำ 1,285,000 บาท ออฟชันแพค 265,000 บาท ราคารวม 1,550,000 บาท
(ฟอเรสเตอร์ใหม่เปิดให้รับจองภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 โดยกำหนดการส่งมอบในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ GTS ในซูบารุฟอเรสเตอร์รุ่นปัจจุบัน)

มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 7 สี พร้อมสีใหม่
สีภายนอกใหม่ 3 สี
- Brilliant Bronze Metallic
- Cascade Green Silica
- Magnetite Gray Metallic
สีภายนอกปัจจุบัน
- Crystal White Pearl
- Ice Silver Metallic
- Crystal Black Silica
- Horizon Blue Pearl
เครื่องยนต์ SUBARU FORESTER 2023
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ แบบสูบนอนขนาด 2.0 ลิตร ไดเร็กอินเจ็กชัน ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน CVT (Lineartronic Continuously Variable Transmission) พร้อมโหมดแมนนวล 7 สปีด ที่ให้อัตราเร่งแรงและประหยัดเชื้อเพลิง
ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ พร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ล่าสุด EyeSight 4.0 ที่พัฒนาให้มุมมองรับภาพที่กว้างกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า พร้อมเสริมฟังก์ชันควบคุมพวงมาลัย ทำให้ฟอเรสเตอร์ใหม่ มีคุณสมบัติของระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับ 2 (ADAS-Advanced Driver-Assistance System) และเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยของซูบารุ EyeSight 4.0 ปกป้องความปลอดภัย ด้วยความแม่นยำจากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่ถูกอัพเกรดด้วยคุณสมบัติใหม่ที่ล้ำสมัย
ฟอเรสเตอร์ ใหม่ ยังมีระบบ X-MODE ถูกคิดค้นและใช้ในรถซูบารุตั้งแต่ปี 2012 ที่ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีหลักคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) อย่างชาญฉลาด และด้วยระยะห่างจากพื้นดินที่สูงถึง 220 มิลลิเมตร ทำให้รถฟอเรสเตอร์ เป็นรถขับขี่รถได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายยิ่งขึ้น สามารถไปได้ทุกที่อย่างแท้จริง

ขณะที่เทคโนโลยีหลักของซูบารุ และนวัตกรรมความปลอดภัยกว่า 100 รายการ ยังคงอยู่ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นซึ่งยกระดับความปลอดภัย เผยจุดเด่นเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสาร และความสบายในการขับขี่ของฟอเรสเตอร์ ใหม่ เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ถูกคำนึงถึงเป็นอันดับแรกของการพัฒนา ฟอเรสเตอร์ใหม่จึงช่วยให้ผู้ขับมีทัศนวิสัยที่กว้างขึ้น เป็นรถเอสยูวีที่พาไปสู่การใช้ชีวิตในโลกที่กว้างขึ้นอย่างปลอดภัย และสะดวกสบาย
EyeSight 4.0 มีระบบความปลอดภัยมากถึง 9 ระบบ โดยรวม 3 ระบบใหม่ไว้ด้วย ดังนี้
- Autonomous Emergency Steering1 ระบบบังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบจากรถหรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการชน (ระบบทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
- Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ระบบไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ช่วยรักษาทิศทางของรถ ให้อยู่ตรงกลางเลนจราจร ทั้งถนนทางตรงและทางโค้ง เป็นฟังก์ชันที่เพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า พร้อมลดหรือเพิ่มความเร็วอัตโนมัติตามรถคันหน้า ให้ความสะดวก โดยเฉพาะการขับบนถนนไฮเวย์
- Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบบังคับรถกลับเข้าเลน หากระบบตรวจจับว่ารถกำลังคร่อมเส้นแบ่งเลน จะดึงพวงมาลัยนำรถกลับเข้ากลางเลนโดยอัตโนมัติ (ระบบทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป)
- ระบบ Pre-Collision Braking และ Adaptive Cruise Control ยังถูกพัฒนาให้ล้ำหน้าขึ้นอีกขั้น EyeSight 4.0 มีระบบ Pre-Collision Braking ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ช่วยปกป้องความปลอดภัยได้ในสถานการณ์การขับขี่ ตามสี่แยกจราจร จุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พัฒนากล้องสเตอริโอคู่หน้าให้มีระยะตรวจจับวัตถุกว้างกว่าเดิม (จากมุมซ้ายถึงมุมขวา) ถึงเกือบสองเท่า รวมทั้งจากมุมบนถึงมุมล่าง จากมุมซ้ายถึงมุมขวา กล้องจะตรวจจับวัตถุหรือสิ่งกีดขวางได้กว้างและไกลขึ้น อันช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้มาก ตรวจจับวัตถุได้ไม่เพียงเฉพาะในเลนที่อยู่เท่านั้น ยังกว้างไปครอบคลุมเลนข้างๆด้วย ตัวอย่างเช่น รถในเลนสวน และคนข้ามถนนจากทั้งทิศทางซ้ายและทิศทางขวาของสี่แยกจราจร
- Subaru Rear Vehicle Detection (SRVD)1 ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลัง ระบบเรดาร์เซ็นเซอร์จะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับหากจะเปลี่ยนเลนบนถนนหรือถอยหลังในที่จอดรถ High Beam Assist (HBA)1 ไฟหน้าอัจฉริยะปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันใหม่ที่ให้มาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน หรือบนถนนที่มืด ลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ ทำงานคู่กับกล้องสเตอริโอคู่หน้า ไฟหน้าอัจฉริยะจะปรับไฟหน้าสูง-ต่ำให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอให้ผู้ขับสั่งการ และไม่ต้องกังวลว่าไฟหน้าจะรบกวนการขับขี่ของรถคันอื่น ลักษณะการทำงานคือ เมื่อกล้องสเตอริโอคู่หน้าจับได้ว่าแสงบนถนนสว่างพอ เช่น มีแสงจากไฟถนน หรือเมื่อมีรถอยู่ข้างหน้าในเลนที่ตรงกัน และเลนด้านข้าง ไฟหน้าจะปรับเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ ระบบนี้มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะการขับขี่บนถนนนอกเมืองในประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา เพราะผู้ขับไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับไฟหน้า และเห็นทางข้างหน้าได้ชัดขึ้น ทำให้การขับเวลากลางคืนมีความปลอดภัยมากขึ้น
- X-MODE ที่แท้จริง พัฒนาใหม่ ให้ความปลอดภัย ความคล่องตัว และความสะดวกสบายที่ใช้งานง่ายเพียงแค่กดปุ่ม ระบบ X-MODE จะช่วยให้ผู้ขับฝ่าเส้นทางขรุขระและท้าทาย และยิ่งทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร “Symmetrical All-Wheel Drive” ของซูบารุ ผู้ขับจะยิ่งมั่นใจ เอาชนะได้แม้เส้นทางสุดโหด หรือทางชันที่ลื่น ผู้ขับสามารถเลือกใช้โหมด Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud เพื่อให้เหมาะสมกับเส้นทาง ระบบ X-MODE จะอยู่ที่ Stand by เมื่อใช้ความเร็วรถเกินกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะทำงานกลับมาทำงานอัตโนมัติ เมื่อความเร็วรถลดลงต่ำกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ X-MODE เดิม ที่ผู้ขับจะต้องมองปุ่มเพื่อปรับโหมดเอง
- ระบบ Hill Descent Control ใน X-MODE ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ช่วยควบคุมความเร็วรถขณะลงเนินหรือลงเขาในสภาพถนนลื่น ซึ่งลักษณะถนนประเภทนี้พบมากในประเทศไทย ให้ขับได้อย่างสบายไร้กังวล มีสมาธิในการควบคุมทิศทางรถ กรณีที่ผู้ขับต้องการเร่งความเร็วขณะลงทางลาดชัน ก็ยังสามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่น ระบบควบคุมความเร็วนี้ทำงานประสานกับการเร่งเครื่องได้อย่างราบเรียบ ขณะลงทางชันที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบบังคับเบรกอัตโนมัติจะทำงาน ให้ความสะดวกสบายในกรณีของการขับขี่ในเมืองที่ต้องขึ้นลงที่จอดรถในอาคารสำนักงาน หรือในห้างสรรพสินค้าที่พื้นซีเมนต์มีความลื่น ความเปลี่ยนแปลงในซูบารุฟอเรสเตอร์รุ่นใหม่

