ISUZU Ddi MAXFORCE 2025: พลังแห่งอนาคต ที่เร็ว แรง และประหยัดยิ่งกว่า พร้อมกำหนดนิยามใหม่แห่งการขับขี่!
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ปี 2025 คือช่วงเวลาที่ Isuzu (อีซูซุ) ยืนหยัดอย่างโดดเด่นในฐานะผู้บุกเบิก ด้วยการเปิดตัวขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ล่าสุดในตระกูล Ddi MAXFORCE – ซึ่งไม่ใช่แค่การพัฒนา แต่เป็นการปฏิวัติที่แท้จริงภายใต้แนวคิด “The FORCE of FUTURE” ที่พร้อมขับเคลื่อนคุณสู่อนาคตที่เหนือกว่าในทุกมิติ เราในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่คลุกคลีในวงการนี้มานานกว่าทศวรรษ ขอยืนยันว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถปิกอัพและรถยนต์อเนกประสงค์ในประเทศไทย
Isuzu 2025: การมาถึงของขีดสุดแห่งนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซล
อีซูซุยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนายนตรกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง และสำหรับปี 2025 นี้ ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญ ด้วยการนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แกะกล่องขนาด 2.2 ลิตร ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ผสานกับเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่ได้รับการยกระดับสมรรถนะให้ทรงพลังยิ่งขึ้น มุ่งเน้นไปที่ความเร็วที่เหนือกว่า แรงบิดที่จัดจ้าน การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม และที่สำคัญที่สุดคือค่า CO2 ที่ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Isuzu พร้อมก้าวสู่ยุคพลังงานที่หลากหลายในอนาคตได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ อีซูซุยังคงรักษาสมดุลด้วยการมีเครื่องยนต์ 1.9 ลิตรให้เลือกสรร ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่กว้างขวางที่สุดในตลาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หัวใจใหม่แห่งการขับเคลื่อน: เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE “The FORCE of FUTURE”
นี่คือไฮไลท์ที่แท้จริงของ Isuzu ในปี 2025 กับการเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร (2.2 Ddi MAXFORCE) ที่จะมาพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ของคุณ เครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) บล็อกนี้ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มตัวเลข แต่เป็นการปรับปรุงเชิงลึกที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมอย่างมหาศาล
พลังแรงจัดเต็ม: สัมผัสพละกำลังที่เพิ่มขึ้นเป็น 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตัน-เมตร ในช่วงรอบเครื่องยนต์ที่ใช้งานบ่อยคือ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ซึ่งหมายถึงการออกตัวที่กระฉับกระเฉงและการเร่งแซงที่มั่นใจ
แรงบิดช่วงออกตัวที่เหนือกว่า: สิ่งที่โดดเด่นคือแรงบิดช่วงออกตัวที่สูงขึ้นถึง 56% นี่คือจุดที่วิศวกรของ Isuzu ทำการบ้านมาอย่างหนัก เพื่อให้รถมีอัตราเร่งตอบสนองทันใจตั้งแต่เท้าสัมผัสคันเร่ง ไม่ว่าจะออกตัวจากหยุดนิ่ง หรือต้องการเร่งความเร็วในสถานการณ์คับขัน
ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างชาญฉลาด: แม้จะแรงขึ้น แต่กลับประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู เกรด L ที่สามารถทำได้สูงสุดถึง 10.7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาสำหรับเครื่องยนต์สมรรถนะสูงเช่นนี้ ในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ Isuzu ได้พิสูจน์แล้วว่าพลังและความประหยัดสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด:
หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa.: การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ละเอียดและมีแรงดันสูง ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ลดมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์
ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง: หน่วยควบคุมเครื่องยนต์อัจฉริยะแบบมัลติคอร์ ประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์
E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์: ระบบเทอร์โบที่สามารถปรับครีบได้ด้วยไฟฟ้า ช่วยให้เทอร์โบตอบสนองได้รวดเร็วตั้งแต่รอบต่ำ ลดอาการรอรอบ (Turbo Lag) และส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่อง
ห้องเผาไหม้แบบ HIGH SWIRL และลูกสูบใหม่ ULTRA-LOW FRICTION: การออกแบบห้องเผาไหม้ที่สร้างกระแสอากาศหมุนวนสูง (High Swirl) ผสานกับลูกสูบที่มีแรงเสียดทานต่ำเป็นพิเศษ ช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียพลังงาน และยืดอายุการใช้งาน
เสื้อสูบ EXTREME STRENGTH พร้อมระบบหล่อลื่น HI-FLOW และชุดขับเคลื่อน TIMING GEAR & CHAIN: โครงสร้างเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ รองรับการทำงานหนักได้อย่างไร้กังวล พร้อมระบบหล่อลื่นที่ออกแบบมาใหม่เพื่อการไหลเวียนน้ำมันที่ดียิ่งขึ้น และชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวที่ทนทานด้วยเฟืองและโซ่เหล็กกล้า มั่นใจได้ในความเสถียรและความทนทานระยะยาว
ขุมพลังที่ไร้ขีดจำกัด: เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE “The FORCE of FUTURE” พลังใหม่…กำหนดโลก!
สำหรับผู้ที่ต้องการพละกำลังที่เหนือกว่าในทุกมิติ Isuzu ยังได้นำเสนอเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ที่ได้รับการปรับจูนใหม่ ให้พลังแรงสูงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตัน-เมตร ในช่วง 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ขุมพลังนี้มาพร้อม E-VGS TURBO ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองดียิ่งขึ้นในทุกช่วงความเร็ว ไม่ว่าจะขับขี่ในเมือง หรือลุยทางสมบุกสมบัน เครื่องยนต์บล็อกนี้ก็พร้อมตอบโจทย์ความท้าทายได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยมีให้เลือกทั้งในรถ Isuzu D-Max และ Isuzu MU-X
ระบบส่งกำลังใหม่: ความลื่นไหลและประหยัดที่สมบูรณ์แบบ
ไม่เพียงแค่เครื่องยนต์ที่ได้รับการยกระดับ ระบบส่งกำลังเองก็ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและประหยัดน้ำมันอย่างแท้จริง
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ REV TRONIC (ครั้งแรกของ Isuzu!): นี่คือไฮไลท์สำคัญอีกอย่างที่ Isuzu ภูมิใจนำเสนอ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดชุดใหม่นี้ให้อัตราทดเกียร์ที่ต่อเนื่องและครอบคลุมในทุกช่วงความเร็ว ส่งผลให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ไร้รอยต่อ มอบความสนุกและเร้าใจในการขับขี่ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความประหยัดน้ำมันไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้รอบเครื่องยนต์อยู่ในช่วงที่เหมาะสมที่สุดอยู่เสมอ
เกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ GENIUS SPORT SHIFT: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการควบคุมด้วยตัวเอง เกียร์ธรรมดา 6 สปีดชุดใหม่นี้มาพร้อมอัตราทดที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยให้ออกตัวได้ดีขึ้นแม้บรรทุกหนักเต็มพิกัด และยังคงรักษาความประหยัดน้ำมันที่ความเร็วสูงได้อย่างน่าประทับใจ การขับขี่จะสนุกและแม่นยำยิ่งขึ้นด้วยชุดเกียร์ที่ออกแบบมาเพื่อการตอบสนองที่ฉับไว
NEW! ISUZU MU-X The Next Peak 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: กำหนดจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่า
รถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมอย่าง Isuzu MU-X ก็ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “The Next Peak” ด้วยขุมพลัง Ddi MAXFORCE ทั้ง 2.2 และ 3.0 ลิตร เพื่อมอบสมรรถนะที่เหนือกว่า และประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราสะดวกสบายยิ่งขึ้น
เพิ่มไลน์อัพใหม่! NEW! MU-X The Next Peak รุ่น RS: นี่คือรุ่นพิเศษที่พร้อมพุ่งทะยานสู่จุดพีคที่สุดของสมรรถนะและความพรีเมียม มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ที่พร้อมกำหนดโลกใบใหม่ของการขับขี่ ให้คุณฝ่าทุกอุปสรรคอย่างไร้ขีดจำกัด และนำพาสู่จุดสูงสุดของความสำเร็จในทุกเส้นทาง
ราคาจำหน่าย NEW! MU-X ในแต่ละรุ่น (โดยประมาณ ณ ปี 2025):
NEW! MU-X RS 4×4 (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) ราคา 1,759,000 – 1,771,000 บาท
NEW! MU-X RS ราคา 1,624,000 – 1,671,000 บาท
NEW! MU-X Ultimate ราคา 1,554,000 – 1,601,000 บาท
NEW! MU-X Elegant ราคา 1,429,000 – 1,476,000 บาท
NEW! MU-X Active ราคา 1,194,000 – 1,206,000 บาท
รถปิกอัพ ISUZU D-MAX 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: พลังใหม่…กำหนดโลก
ตำนานบทใหม่ของรถปิกอัพที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน Isuzu D-Max ก็ได้รับการเสริมทัพความแข็งแกร่งด้วยเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE ที่พร้อมจะพิชิตทุกเส้นทางและทุกภารกิจ
เพิ่มไลน์อัพใหม่! ISUZU V-CROSS 4×4 เกรด ZP: สำหรับผู้ที่หลงใหลการผจญภัยและการขับขี่แบบออฟโรด V-Cross 4×4 เกรด ZP มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ที่จะพาคุณลุยไปได้ทุกที่
เพิ่มไลน์อัพใหม่! ISUZU D-MAX Spark 4×4 เกรด S: รถปิกอัพเพื่อการพาณิชย์ที่แข็งแกร่งทนทาน ได้รับการยกระดับด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง
สีใหม่! สีเทา Elbrus Grey Opaque (เทา เอลบรุส โอเพค): เสริมนิยามหรูหรา กำหนดโลก ให้กับรถปิกอัพ Isuzu D-Max เพิ่มความโดดเด่นและมีสไตล์ในทุกเส้นทาง
ราคาจำหน่าย ISUZU D-MAX ในแต่ละรุ่น (โดยประมาณ ณ ปี 2025):
NEW! ISUZU V-Cross 4×4 รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคา 937,000 – 1,284,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Hi-Lander รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคา 778,000 – 1,171,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Cab4 ราคา 749,000 – 902,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spacecab ราคา 668,000 – 784,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark 4×4 ราคา 740,000 – 787,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark ราคา 558,000 – 655,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์จริง: การทดสอบสมรรถนะที่เหนือกว่า
ในการเปิดตัวครั้งนี้ เรามีโอกาสได้เข้าร่วมการทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ Ddi MAXFORCE บนสนามแข่งระดับโลกอย่าง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และบนเส้นทางที่ท้าทายอื่นๆ ด้วยรถ Isuzu D-Max Hi-lander 2.2 Ddi MAXFORCE และ Isuzu MU-X The Next Peak 2.2 Ddi MAXFORCE ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
ISUZU D-Max Hi-lander 2.2 Ddi MAXFORCE: แรงเกินคาดในทุกมิติ
การออกตัวและการเร่งแซง: ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE เกินความคาดหมายตั้งแต่เริ่มออกตัว จุดเด่นคือพละกำลังที่มีมาให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,600 รอบ/นาที ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งลึก รถก็สามารถทะยานออกไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จังหวะเร่งแซงต่างๆ ก็ทำได้ดีเยี่ยม ไม่มีอาการรอรอบแม้แต่น้อย ด้วยการทำงานที่ผสานกันอย่างลงตัวของเทอร์โบลูกใหม่และระบบ ECM ทำให้พละกำลังมาอย่างรวดเร็วและทันใจ
ความเงียบและความราบรื่น: เสียงเครื่องยนต์มีความเงียบลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่น 1.9 ลิตร สัมผัสได้ตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ และยังคงความเงียบสงบแม้ในจังหวะเร่งแซง นอกจากนี้ เครื่องยนต์ยังมีความราบเรียบกว่าเดิมมาก หากลองกดคันเร่งขณะรถจอดนิ่ง ก็จะสัมผัสได้ถึงการตอบสนองของรอบเครื่องยนต์ที่มาเร็วขึ้นอย่างน่าทึ่ง
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด REV TRONIC: พระเอกของงาน: เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่นี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ประสบการณ์การขับขี่สมบูรณ์แบบ การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างราบรื่นและนุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึกถึงการสะดุด การตอบสนองในช่วงเร่งแซงก็ทำได้ดีเยี่ยม หากต้องการลดเกียร์เพื่อเพิ่มกำลังเร่ง Paddle Shift (แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย) ก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง นี่คือสิ่งที่ทำให้การขับขี่สนุกและมั่นใจยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือจำนวนเกียร์ที่เพิ่มขึ้นถึง 8 สปีดนี้ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยประหยัดน้ำมัน เมื่อเราวิ่งด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเกียร์ 8 รอบเครื่องยนต์จะขึ้นไปเพียงประมาณ 1,900-1,950 รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งอัตราทดเกียร์เช่นนี้จะช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้อย่างแน่นอนในการขับขี่ระยะยาว
MU-X The Next Peak 2.2 Ddi MAXFORCE: ความสบายที่มาพร้อมสมรรถนะ
แม้จะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกันกับ D-Max แต่เมื่อมาอยู่ใน Isuzu MU-X ซึ่งมีน้ำหนักตัวรถที่มากกว่าเล็กน้อย อัตราเร่งอาจจะไม่ได้จัดจ้านเท่า แต่สิ่งที่โดดเด่นคือความไหลลื่นและความนุ่มนวลของการเปลี่ยนเกียร์ที่รู้สึกได้ถึงความยอดเยี่ยม ด้วยความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ต้องการความสบายในการเดินทางสำหรับผู้โดยสาร เกียร์ใหม่นี้จึงตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้การขับขี่และการโดยสารเป็นไปอย่างผ่อนคลาย เหมาะกับการเดินทางไกลและการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวได้อย่างไร้ที่ติ
Slope Station: พิสูจน์ความแกร่ง ท้าทายทุกเนินชัน
นอกจากการทดสอบบนสนามแข่งและเส้นทางทั่วไปแล้ว เรายังได้ทดสอบสมรรถนะในสถานี Slope Station ซึ่งเป็นการขับรถขึ้นและลงเนินชัน 18 องศา พร้อมบรรทุกน้ำหนักถึง 1,000 กิโลกรัม ด้วยรถปิกอัพ NEW! ISUZU D-MAX Spacecab เกียร์ธรรมดา และ NEW! ISUZU D-MAX Spark เกียร์อัตโนมัติ ผลลัพธ์ที่ได้คือ Isuzu สามารถปีนป่ายขึ้นเนินชันได้อย่างง่ายดาย แสดงให้เห็นถึงพละกำลังและแรงบิดที่เหลือเฟือของเครื่องยนต์ใหม่ Ddi MAXFORCE รวมถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างและระบบส่งกำลัง ที่พร้อมรองรับการใช้งานหนักได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกของ หรือการลุยเส้นทางที่ท้าทาย Isuzu ก็พร้อมตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างมั่นใจ
สรุป: Isuzu Ddi MAXFORCE 2025 คือคำตอบของอนาคต
Isuzu Ddi MAXFORCE 2025 คือก้าวที่สำคัญของ Isuzu ในการนำเสนอเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่ทันสมัย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ด้วยเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE ที่มาพร้อมสมรรถนะที่เร็ว แรง และประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม ผสานกับระบบส่งกำลังใหม่ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด REV TRONIC และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด GENIUS SPORT SHIFT พร้อมไลน์อัพรถ Isuzu D-Max และ MU-X ที่ครบครันและน่าสนใจยิ่งขึ้น
Isuzu ไม่ได้เพียงแค่สร้างรถยนต์ แต่กำลังสร้าง “The FORCE of FUTURE” ที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์ไทย นี่คือรถยนต์ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะคู่ใจสำหรับงานหนัก หรือรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่ต้องการความสบายและปลอดภัย หากคุณกำลังมองหายนตรกรรมที่ผสานนวัตกรรม ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว Isuzu 2025 คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง ขอเชิญชวนทุกท่านไปสัมผัสและทดลองขับขี่ด้วยตัวเองที่โชว์รูม Isuzu ทั่วประเทศ เพื่อพิสูจน์ “พลังแห่งอนาคต” ที่อีซูซุได้รังสรรค์มาเพื่อคุณโดยเฉพาะ!

