ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025: นิยามใหม่ของกระบะสมรรถนะสูงสไตล์มอเตอร์สปอร์ตที่พร้อมเปลี่ยนทุกการขับขี่ให้เป็นประสบการณ์เหนือระดับ
ในโลกของยานยนต์ปี 2025 ที่ความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์หลากหลายรูปแบบกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์สมรรถนะสูง ฟอร์ดได้ก้าวขึ้นมานำเทรนด์อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025” ยนตรกรรมที่ผสานขีดสุดของสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตเข้ากับความแข็งแกร่งและใช้งานได้จริงตามแบบฉบับรถกระบะพันธุ์แกร่งอย่างลงตัว ซึ่งนับเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างฟอร์ด ประเทศไทย และพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการดัดแปลงรถยนต์ภายใต้การรับรอง Qualified Vehicle Modifier อย่างอาร์เอ็มเอ (RMA) ที่ได้เนรมิตกระบะเรนเจอร์ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ สู่ความเป็นรถกระบะสปอร์ตพรีเมียมที่แท้จริง
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถกระบะที่ได้รับการตกแต่งเพิ่มเท่านั้น แต่เป็นการรังสรรค์ขึ้นใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาสมรรถนะอันดุดัน ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งกว่า ในขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งความสามารถในการบรรทุกและลากจูงอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ นี่คือรถที่ถือกำเนิดขึ้นจากสนามแข่ง สู่ถนนจริง เพื่อมอบความรู้สึกเดียวกับรถแข่งให้กับผู้ขับขี่ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง
ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต: ความงดงามที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งาน
เมื่อแรกเห็น ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 จะสะกดทุกสายตาด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดจดภายใต้แนวคิดมอเตอร์สปอร์ตอันดุดัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงและรถแต่งกระบะพิเศษต่างใฝ่หา การออกแบบนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังถูกคิดมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์และรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ
เริ่มต้นที่ด้านหน้า ด้วยกันชนหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยลิ้นหน้า (Splitter) ในตัว ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความเฉียบคมให้กับส่วนหน้าของรถ แต่ยังช่วยในการจัดการการไหลเวียนของอากาศ ช่วยลดแรงยกและเพิ่มแรงกดให้กับตัวรถที่ความเร็วสูง มอบการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของรถกระบะสมรรถนะสูงที่แท้จริง
สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนอีกประการคือซุ้มล้อที่กว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งส่งผลให้ความกว้างโดยรวมของตัวรถเพิ่มขึ้นถึง 82 มิลลิเมตร การขยายฐานล้อนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญในการปรับปรุงเสถียรภาพการทรงตัวของรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว หรือในสถานการณ์ที่ต้องการการควบคุมที่แม่นยำ นอกจากนี้ ชุดสเกิร์ตด้านข้างก็ถูกออกแบบมาให้เข้าชุดกับดีไซน์โดยรวมของรถ ทำให้เส้นสายตัวรถดูต่อเนื่องและกลมกลืน ตั้งแต่หน้าจรดท้าย
เมื่อมองไปยังส่วนท้ายของรถ จะพบกับกันชนหลังดีไซน์ใหม่ที่มาพร้อมกับดิฟฟิวเซอร์หลังสไตล์มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งไม่ใช่แค่การตกแต่ง แต่ยังช่วยในการจัดการการไหลเวียนของอากาศใต้ท้องรถ ช่วยสร้างแรงกดและเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนบริเวณล้อหลัง เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังแบบ Ducktail ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้สำหรับรถยนต์ที่มีกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ต ช่วยเพิ่มความสปอร์ตและความโดดเด่นให้กับส่วนท้ายของรถ
หนึ่งในอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่สร้างความประทับใจไม่น้อยคือบันไดข้างไฟฟ้าแบบพับเก็บอัตโนมัติ ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสภาพอากาศพลศาสตร์ของตัวรถเมื่อไม่ใช้งาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดทั้งในด้านฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงาม
แน่นอนว่าองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 สมบูรณ์แบบคือชุดล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษลาย ‘ไดมอนด์ คัท’ สีดำ ขนาด 21 นิ้ว ที่ไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่สะดุดตา แต่ยังมาพร้อมกับการออกแบบที่ล้ำสมัยและลงตัวกับความกว้างของซุ้มล้อที่ขยายออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ล้อเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบ แต่เป็นเครื่องบ่งบอกถึงสถานะและความเป็นพรีเมียมของรถคันนี้ได้อย่างชัดเจน อีกทั้ง กระจกมองข้างและมือจับประตูสีอะเกต แบล็ก ก็ช่วยเสริมความลึกลับและมีสไตล์ให้กับภาพรวมภายนอกได้อย่างลงตัว
สิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าคือการลดความสูงของตัวรถลงถึง 40 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นการปรับแต่งช่วงล่างเพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า การลดจุดศูนย์ถ่วงนี้ช่วยให้รถมีการทรงตัวที่ดีขึ้น ลดอาการโคลงเคลงเมื่อเข้าโค้ง และมอบความรู้สึกในการควบคุมที่เฉียบคมและมั่นใจยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถใช้งาน แต่เป็นรถที่พร้อมจะให้ความสนุกและประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจบนทุกเส้นทาง
สำหรับสีภายนอกที่พร้อมให้เลือก คือ สีเทา คอมมานด์ เกรย์ (Command Grey) และ สีดำ แอ็บโซลูท แบล็ก (Absolute Black) ซึ่งเป็นสองเฉดสีที่สะท้อนความหรูหรา ดุดัน และความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 เป็นกระบะที่พร้อมจะโดดเด่นบนท้องถนนในทุกสถานการณ์
ภายในห้องโดยสาร: ผสมผสานความสปอร์ตพรีเมียมเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย
เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงจากรถกระบะทั่วไป การตกแต่งภายในได้รับการยกระดับให้มีความพรีเมียมและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยยังคงไม่ทิ้งความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานอันเป็นหัวใจสำคัญ
หัวใจหลักของห้องโดยสารคือเบาะที่นั่งโอบกระชับ (Contoured Seats) ที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับชุดแต่ง MS-RT เบาะนั่งเหล่านี้ผลิตจากหนังสังเคราะห์และหนังกลับคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่หรูหราและทนทาน พร้อมการเดินด้ายสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ที่ประดับประดาอยู่ทั่วห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นที่เบาะนั่ง แผงประตู หรือพวงมาลัย การออกแบบเบาะนั่งที่โอบกระชับนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกสปอร์ต แต่ยังรองรับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือเข้าโค้ง มอบความมั่นคงและลดความเมื่อยล้าได้อย่างดีเยี่ยม เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้ายังสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายในการหาตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด
พวงมาลัยดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ MS-RT และแถบสีน้ำเงินที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เป็นอีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดสายตาและเพิ่มความรู้สึกสปอร์ตให้กับผู้ขับขี่ พวงมาลัยนี้ให้การจับกระชับมือและควบคุมได้อย่างแม่นยำ ตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
สัญลักษณ์ MS-RT ยังถูกประดับอยู่บนยางปูพื้นห้องโดยสารและบนเบาะคู่หน้า รวมถึงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมลายธงเรซซิ่งบนเบาะ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นรถกระบะสปอร์ตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่งอย่างแท้จริง
ในด้านเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน แท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟนช่วยให้คุณเชื่อมต่อและใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ พร้อมด้วยกุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติเพื่อความสะดวกสบายในการเข้าถึงและสตาร์ทรถ
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับตนเองได้ เสริมด้วยระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพื่อความเย็นสบายทั่วถึงทั้งคัน กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติพร้อมช่องต่อ USB เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่เพิ่มความสะดวกสบายและลดแสงสะท้อนจากรถด้านหลังในเวลากลางคืน พร้อมไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์และหรูหรา
หัวใจของระบบความบันเทิงและข้อมูลคือหน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถ หน้าจอขนาดใหญ่นี้ทำงานร่วมกับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความฉลาดและรวดเร็วยิ่งขึ้น รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ ช่วยให้การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเป็นไปได้อย่างไร้รอยต่อ คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน แผนที่ หรือเพลงโปรดได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญได้อย่างชัดเจน ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบ FordPass Connect ที่ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อและควบคุมรถผ่านสมาร์ทโฟนได้จากระยะไกล ช่องต่อ USB ถึง 4 จุด รวมถึงบนกระจกมองหลัง และลำโพง 6 ตำแหน่ง ก็พร้อมมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ครบครันตลอดการเดินทาง
ขุมพลัง V6 ดีเซล 3.0 ลิตร: แรงบิดมหาศาลเพื่อทุกการขับเคลื่อน
ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดุดันและภายในที่หรูหรา ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ได้ซ่อนขุมพลังที่แท้จริงเอาไว้ นั่นคือเครื่องยนต์ดีเซล V6 ขนาด 3.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในต่างประเทศมายาวนาน และได้เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2024 ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านความเสถียรและความทนทาน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังและแรงบิดที่เหนือกว่าจากรุ่นปกติ
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ V6 ตัวนี้มอบพละกำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 600 นิวตันเมตร (Best in Class) ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถกระบะในเซกเมนต์นี้ แรงบิดระดับนี้ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT มีความสามารถในการเร่งแซง การบรรทุก และการลากจูงที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะบนทางเรียบหรือทางขรุขระ เป็นไปได้อย่างราบรื่นและเต็มไปด้วยพลัง
รายละเอียดทางวิศวกรรมของเครื่องยนต์ V6 ดีเซล 3.0 ลิตรนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกองค์ประกอบ:
กระบอกสูบ/ระยะชัก: 84 มม. / 90 มม. ให้การทำงานที่สมดุลและทรงพลัง
ปริมาตรความจุ: 2993 ลบ.ซม. ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับการสร้างแรงบิดสูง
อัตราส่วนการอัด: 16.0:1 ที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล
ลำดับการจุดระเบิด: 1-4-2-5-3-6 เพื่อการทำงานที่ราบรื่นและสมดุล
การฉีดเชื้อเพลิง: Direct Injection โดยใช้หัวฉีด Bosch Piezo ที่มีความแม่นยำสูง แรงดันในรางหัวฉีดสูงถึง 2,000 บาร์ ทำให้การฉีดเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเผาไหม้หมดจด
แรงดันเทอร์โบชาร์จสูงสุด: 2.8 บาร์ ซึ่งบ่งบอกถึงการอัดอากาศที่สูงเพื่อเพิ่มพละกำลังของเครื่องยนต์
กลไกขับวาล์ว: เพลาลูกเบี้ยวเหนือฝาสูบคู่ (DOHC) 4 วาล์วต่อกระบอกสูบ เพื่อการควบคุมวาล์วที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพการหายใจของเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น
ฝาสูบอะลูมิเนียม: ช่วยลดน้ำหนักและระบายความร้อนได้ดี
เสื้อสูบรูปตัว V เหล็กหล่อแกรไฟต์ขั้นตอนเดียว: ให้ความแข็งแรงทนทานสูง
กระบอกสูบ 2 แถวจัดวางเข้าหากันที่ 60 องศา: เป็นการจัดวางที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มความสมดุล
อ่างน้ำมันเครื่องแบบชิ้นเดียว: ผลิตจากการหล่อแรงดันสูงจากอะลูมิเนียม เพื่อความแข็งแรงและลดการรั่วซึม
ระบบเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรล: เพื่อการจ่ายเชื้อเพลิงที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
ใช้สายพานไทม์มิ่งขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยว: ให้การทำงานที่เที่ยงตรงและทนทาน
เทอร์โบชาร์จเจอร์แปรผัน: ช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังและแรงบิดที่ดีเยี่ยมในทุกช่วงรอบเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ทรงพลังนี้ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter ซึ่งมอบการเปลี่ยนเกียร์ที่ราบรื่นและรวดเร็ว ช่วยให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือการลุยเส้นทางที่ท้าทาย
ระบบขับเคลื่อน 4×4 และโหมดการขับขี่: พร้อมลุยทุกสภาพเส้นทาง
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ 4A 4WD ที่ชาญฉลาด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รถคันนี้สามารถเดินทางบนทุกสภาพผิวถนนได้อย่างมั่นใจ ระบบ 4A 4WD สามารถปรับการกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อทั้งสี่ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้รถมีการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นบนถนนแห้ง ถนนเปียก หรือแม้แต่เส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกโหมดการขับขี่ถึง 6 โหมด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการตอบสนองของรถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ:
โหมดปกติ (Normal): สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันบนถนนทั่วไป มอบความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความประหยัดน้ำมัน
โหมดประหยัด (Eco): เน้นการประหยัดเชื้อเพลิง โดยจะปรับการตอบสนองของคันเร่งและการทำงานของเกียร์ให้เหมาะสมที่สุด
โหมดลากจูง (Tow/Haul): สำหรับการลากจูงน้ำหนักมาก โดยจะปรับการทำงานของเกียร์และเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มกำลังและแรงบิดในการลากจูงอย่างมีประสิทธิภาพ
โหมดถนนลื่น (Slippery): สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวที่ลื่น เช่น ถนนเปียก หรือมีหิมะ (ในต่างประเทศ) ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและลดความเสี่ยงจากการลื่นไถล
โหมดโคลนและหิน (Mud/Ruts): สำหรับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่มีโคลนหรือร่องลึก ช่วยเพิ่มแรงฉุดและลดการติดหล่ม
โหมดทราย (Sand): สำหรับการขับขี่บนพื้นทราย โดยจะปรับการทำงานของระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับการตะลุยทราย เพื่อป้องกันการติดหล่มและช่วยให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
การมีโหมดการขับขี่ที่หลากหลายนี้ ไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ แต่ยังช่วยให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 เป็นรถกระบะที่อเนกประสงค์อย่างแท้จริง พร้อมรับมือกับทุกการผจญภัยและการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์การเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 2025 ที่ครบเครื่อง
เทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากสมรรถนะและการออกแบบที่โดดเด่นแล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือกว่ารถกระบะทั่วไป
ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting): นี่คือฟังก์ชันที่คิดมาเพื่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หรือต้องทำงานในที่มืด ระบบนี้ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟส่องพื้นจากกระจกข้างรถ ไฟในกระบะท้าย และไฟส่องแผ่นป้ายทะเบียน คุณสามารถเลือกเปิดปิดเฉพาะบางโซนหรือทุกโซนพร้อมกันได้ผ่านหน้าจอ SYNC ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืน เช่น การตั้งแคมป์ การจัดเก็บสัมภาระ หรือการทำงานในพื้นที่มืดรอบๆ รถ
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ครบครัน: ฟอร์ดให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสารและผู้ใช้ถนนเสมอมา ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 จึงมาพร้อมกับชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำหน้าและครอบคลุม:
ถุงลมนิรภัย 7 จุด: ประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า ซึ่งพร้อมปกป้องผู้โดยสารจากการชนได้อย่างทั่วถึง
ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน: ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ระบบจะโทรออกไปยังหน่วยงานฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ เพื่อขอความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
เบรกมือไฟฟ้า: เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการจอดรถ
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD: ช่วยให้คุณควบคุมรถได้ดีเยี่ยมแม้ในสถานการณ์เบรกกะทันหัน
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System): ช่วยรักษาการทรงตัวของรถและป้องกันล้อหมุนฟรี ทำให้การขับขี่บนพื้นผิวที่ลื่นมีความมั่นใจยิ่งขึ้น
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation): เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนทางลาดชันและลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control): ช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะลงทางลาดชันชัน ให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง: ช่วยให้การจอดรถในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Centering): เป็นระบบที่ช่วยให้การขับขี่ทางไกลมีความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น รถจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ และสามารถหยุดนิ่งแล้วออกตัวใหม่ได้เองในสภาพการจราจรติดขัด พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางช่องทางจราจร
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High-Beam): ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถคันอื่น
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินเท้า (AEB): ช่วยลดความเสี่ยงของการชน โดยระบบจะแจ้งเตือนและเบรกอัตโนมัติหากตรวจพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหน้าหรือคนเดินเท้า
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีความเสี่ยงที่จะชน
ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน (Post-Collision Braking System): ช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุต่อเนื่องโดยการเบรกรถหลังการชนครั้งแรก
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Alert): เตือนผู้ขับขี่เมื่อรถกำลังจะออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with Cross-Traffic Alert): แจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอด และช่วยเตือนเมื่อถอยออกจากช่องจอดแล้วมีรถวิ่งผ่าน
กล้องมองรอบคัน 360 องศา: มอบมุมมองแบบ Bird’s-eye view รอบตัวรถ ทำให้การจอดรถหรือขับขี่ในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง (Reverse Brake Assist): ช่วยเบรกรถอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชนขณะถอยหลัง
ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist): ช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครันนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 จึงเป็นรถกระบะที่ไม่ได้มีดีแค่ความแรงและความสวยงาม แต่ยังเป็นรถที่มอบความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกเส้นทาง ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยรถกระบะที่ผู้ใช้รถยนต์อเนกประสงค์ 2025 ควรพิจารณา
ราคาและการเป็นเจ้าของ: ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 เปิดตัวด้วยราคาแนะนำที่ 1,749,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สะท้อนถึงคุณค่าของสมรรถนะอันเหนือชั้น ดีไซน์เฉพาะตัว และเทคโนโลยีระดับพรีเมียมที่อัดแน่นอยู่ในรถกระบะคันนี้ ด้วยความร่วมมือกับผู้จำหน่ายฟอร์ดและอาร์เอ็มเอ ทำให้รถคันนี้ไม่ใช่แค่รถกระบะ แต่เป็นผลงานศิลปะวิศวกรรมที่พร้อมจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41 (ช่วงปลายปี 2567) และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีการเปิดรับจองในช่วงแนะนำเพียง 200 คัน ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นรถยนต์ลิมิเต็ดเอดิชั่นและเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาด นับตั้งแต่ช่วงเปิดตัวจนถึงปี 2025 ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT ยังคงเป็นที่พูดถึงในวงการยานยนต์และเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายคน
การเป็นเจ้าของ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ไม่ใช่แค่การได้รถกระบะมาใช้งาน แต่เป็นการลงทุนในยานยนต์ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ที่หลงใหลในความเร็ว ความแรง และความโดดเด่นไม่เหมือนใคร นี่คือรถกระบะที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความมั่นใจ
สรุป: นิยามใหม่ของกระบะสมรรถนะสูง
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ไม่ใช่แค่เพียงการเติมเต็มช่องว่างในตลาดรถกระบะ แต่เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถกระบะสมรรถนะสูงสไตล์มอเตอร์สปอร์ต ด้วยการผสานดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่งเข้ากับขุมพลัง V6 ดีเซลอันทรงพลัง ช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการขับขี่ที่เหนือกว่า และห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 เป็นรถกระบะที่ไม่เพียงแต่พร้อมสำหรับการใช้งานหนัก แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและเหนือระดับในทุกเส้นทาง
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถกระบะที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนสไตล์ชีวิตที่กล้าหาญ รักความท้าทาย และไม่หยุดนิ่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ มันคือรถกระบะที่พร้อมจะพาคุณไปสัมผัสกับนิยามใหม่ของสมรรถนะและความพรีเมียมในโลกของยานยนต์ปี 2025 ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025
ราคาเริ่มต้น: 1,749,000 บาท
สีที่มีให้เลือก: สีเทา คอมมานด์ เกรย์, สีดำ แอ็บโซลูท แบล็ก

