ยกระดับนิยามแห่งความหรูหรา: เมอร์เซเดส-เบนซ์ อวดโฉมยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury กว่า 6 รุ่น พร้อมขับเคลื่อนอนาคตแห่งการเดินทาง 2025
ในโลกแห่งยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง ปี 2025 ได้ตอกย้ำถึงบทบาทของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานแห่งความหรูหราล้ำยุค ความยั่งยืน และสมรรถนะที่ไร้ขีดจำกัด การกลับมาอีกครั้งในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury กว่า 6 รุ่นสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและความมุ่งมั่นในการรังสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าผู้ทรงอิทธิพลและมีรสนิยม ยานยนต์แต่ละคันไม่เพียงเป็นพาหนะ แต่คือผลงานศิลปะชิ้นเอกที่ผสมผสานดีไซน์อันไร้กาลเวลาเข้ากับเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อให้คุณได้สัมผัส “The Art of Cultivated Luxury” อย่างแท้จริง
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV: ที่สุดแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าหรูหรา สง่างามไร้เสียงรบกวน
ยุคแห่งยนตรกรรมไฟฟ้ากำลังเข้าสู่มิติใหม่ และ Mercedes-Maybach EQS 680 SUV คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าความหรูหราสูงสุดสามารถผนวกเข้ากับความยั่งยืนได้อย่างลงตัว นี่คือ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Maybach ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางอันไร้ที่ติสำหรับผู้บริหารและบุคคลสำคัญ ด้วยราคาเริ่มต้น 12,500,000 บาท Maybach EQS 680 SUV ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ แต่คือสุนทรียภาพที่เคลื่อนที่ได้
หัวใจสำคัญของ Maybach EQS 680 SUV คือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ให้ทั้งพละกำลังอันน่าทึ่งและการทำงานที่เงียบสงัดไร้การสั่นสะเทือน มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังมอบอัตราเร่งที่ฉับไวและนุ่มนวลอย่างเหลือเชื่อ พร้อมพิสัยการขับขี่ที่รองรับการใช้งานในระยะทางไกลอย่างมั่นใจ แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงผสานกับเทคโนโลยีการจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างไร้กังวล และเมื่อถึงเวลาชาร์จ ระบบการชาร์จเร็วก็พร้อมอำนวยความสะดวกให้การเดินทางของคุณไม่สะดุด
การออกแบบภายนอกสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่และสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Maybach กระจังหน้าโครเมียมที่โดดเด่น ไฟหน้า Digital Light อันเป็นนวัตกรรม และลวดลายเส้นสายที่พลิ้วไหว บ่งบอกถึงสถานะอันเหนือระดับ ภายในห้องโดยสารคืออาณาจักรส่วนตัวที่ถูกรังสรรค์ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa คุณภาพสูงสุด พร้อมฟังก์ชันนวดที่หลากหลาย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน และระบบฟอกอากาศที่ให้ความบริสุทธิ์ของอากาศภายในรถ ดุจดั่งคุณกำลังพักผ่อนอยู่ในสปาเคลื่อนที่ จอแสดงผล Hyperscreen ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมด มอบทั้งข้อมูลและความบันเทิงที่ครบครันสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พรมปูพื้นที่นุ่มสบาย วัสดุตกแต่งไม้ชั้นดี หรือโลหะขัดเงา ล้วนถูกเลือกสรรมาอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความหรูหราที่ไม่อาจหาใครเทียบได้ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พื้นที่ Legroom ที่กว้างขวางเป็นพิเศษ พร้อมจอแสดงผลส่วนตัวและฟังก์ชันความบันเทิงแบบเต็มรูปแบบ ทำให้ทุกการเดินทางกลายเป็นการพักผ่อนชั้นเลิศ นี่คือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราขั้นสุดควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบอย่างแท้จริง
Mercedes-Maybach S 580 e Premium: สุนทรียภาพแห่งซีดานไฮเอนด์ ผสานพลังปลั๊กอินไฮบริด
ต่อเนื่องจาก Maybach EQS SUV สู่ยานยนต์ที่ยังคงเป็นเสมือนหัวใจของความหรูหราในแบบฉบับคลาสสิก แต่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด Mercedes-Maybach S 580 e Premium กลับมาพร้อมราคาเริ่มต้น 11,300,000 บาท และยังคงตอกย้ำสถานะของ S-Class ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความสง่างามและความสมบูรณ์แบบที่ไม่อาจมีใครลอกเลียนแบบได้ ความพิเศษในครั้งนี้คือการกลับมาพร้อมตัวถังสีทูโทนใหม่ ซึ่งผลิตในประเทศ (Local Production) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการตอบสนองความต้องการเฉพาะของตลาดไทย พร้อมทั้งรักษามาตรฐานระดับโลกเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม
Maybach S 580 e Premium ผสมผสานขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินอันทรงประสิทธิภาพเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้การขับเคลื่อนอย่างเงียบเชียบและไร้มลพิษในบางช่วงเวลา ระบบปลั๊กอินไฮบริดนี้มอบทั้งพละกำลังที่เหลือเฟือสำหรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น่าประทับใจ รวมถึงความสามารถในการวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในระยะทางที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ช่วยลดการปล่อยมลพิษและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นี่คือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราแบบดั้งเดิมผสานกับความทันสมัยและความยั่งยืน
ภายในห้องโดยสารของ Maybach S 580 e Premium คือนิยามของความสะดวกสบายและความประณีตสูงสุด เบาะนั่ง Executive Seats ด้านหลังที่สามารถปรับเอนได้เกือบสุด พร้อมฟังก์ชันนวด อุ่น และระบายอากาศ มอบความผ่อนคลายขั้นสูงสุด วัสดุตกแต่งภายในที่คัดสรรมาจากแหล่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหนัง Nappa คุณภาพเยี่ยม ลายไม้วีเนียร์ที่สวยงาม หรือการตัดเย็บด้วยมืออันละเอียดอ่อน ทุกองค์ประกอบล้วนถูกจัดวางอย่างลงตัวเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความพิเศษ ความเงียบสงบภายในห้องโดยสารถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนขั้นสูง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการสนทนา การทำงาน หรือการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ระบบ MBUX รุ่นล่าสุดพร้อมจอแสดงผล OLED และระบบสั่งการด้วยเสียง “Hey Mercedes” ช่วยให้การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดายและชาญฉลาด ตัวถังสีทูโทนไม่เพียงเสริมความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงงานฝีมืออันประณีตและความใส่ใจในรายละเอียดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ มอบให้กับยนตรกรรม Maybach ทุกคัน
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology: “King of Off-Road” สู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว
สำหรับผู้ที่หลงใหลในตำนานบทใหม่ของยานยนต์ออฟโรดอันแข็งแกร่งและทรงพลัง G-Class ได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนที่น่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์ 45 ปี ด้วยการเปิดตัว Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology นี่คือครั้งแรกที่ตำนาน “King of Off-Road” ได้ก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า 100% อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 9,500,000 บาท สำหรับรุ่น STANDARD และ 12,200,000 บาท สำหรับรุ่น EDITION ONE ที่จำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 6 คันในประเทศไทย G 580 with EQ Technology ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้า แต่คือสัญลักษณ์แห่งการผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัดและนวัตกรรมอันล้ำสมัย
หัวใจของการขับเคลื่อน G 580 with EQ Technology คือมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ที่มอบแรงบิดมหาศาลสูงสุดถึง 1,164 นิวตันเมตร ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในบรรดารถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แรงบิดมหาศาลนี้ไม่เพียงให้การตอบสนองที่รวดเร็วฉับไวบนท้องถนน แต่ยังมอบพละกำลังที่เหลือเฟือสำหรับการบุกตะลุยในเส้นทางออฟโรดที่สมบุกสมบันที่สุด มอเตอร์แต่ละตัวสามารถควบคุมแรงบิดแยกจากกันได้ ทำให้ G 580 สามารถทำสิ่งที่ยานยนต์ออฟโรดทั่วไปไม่สามารถทำได้ เช่น “G-Turn” ที่สามารถหมุนรถได้ 360 องศาในจุดเดียว หรือ “Crab Walk” ที่สามารถเคลื่อนที่ในแนวทแยงเพื่อหลบหลีกอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย
การออกแบบภายนอกยังคงรักษารูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของ G-Class ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่ง บึกบึน และกล่องสี่เหลี่ยมที่เป็นสัญลักษณ์ แม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความคลาสสิกและความทนทานเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยจอแสดงผลคู่ขนาดใหญ่ ระบบ MBUX ล่าสุด และวัสดุที่เน้นความหรูหราแต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน G 580 with EQ Technology ไม่เพียงแต่เป็นรถยนต์สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย แต่ยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการยานยนต์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในทุกมิติ
Mercedes-Benz G 450 d: ขุมพลังดีเซลตอบโจทย์นักผจญภัยสายคลาสสิก
ในขณะที่ G-Class ก้าวเข้าสู่ยุคไฟฟ้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ไม่ลืมกลุ่มลูกค้าผู้ภักดีที่ยังคงต้องการขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลอันทรงประสิทธิภาพ ด้วยการเปิดตัว Mercedes-Benz G 450 d ในราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท ยนตรกรรม The new G-Class คันนี้คือการตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของลูกค้าชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งในด้านแรงบิด อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และพิสัยการเดินทางที่ยาวนาน เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางไกลผจญภัย
G 450 d มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลอันทันสมัยที่มอบพละกำลังและแรงบิดที่สูง ทำให้สามารถเร่งแซงได้อย่างมั่นใจและลุยได้ทุกสภาพเส้นทาง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดในการใช้งานระยะยาว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันเป็นเอกลักษณ์ของ G-Class พร้อมเฟืองท้ายแบบล็อกได้ 3 ตำแหน่ง ยังคงเป็นจุดแข็งที่ทำให้ G 450 d สามารถพิชิตอุปสรรคได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชัน โคลน หรือหินขรุขระ
การออกแบบทั้งภายนอกและภายในยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ G-Class ไว้อย่างครบถ้วน ด้วยดีไซน์ที่แข็งแกร่ง ทนทาน และภายในที่เปี่ยมด้วยความหรูหราแต่ใช้งานได้จริง จอแสดงผลดิจิทัลและระบบ Infotainment ที่ทันสมัยช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง G 450 d เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการ G-Class ในแบบฉบับดั้งเดิม ที่มาพร้อมกับความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ เหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ต้องการรถที่สามารถพาพวกเขาไปได้ทุกที่ โดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายและความหรูหรา
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium: ที่สุดแห่งซีดานลักชัวรี่ ผสมผสานความสปอร์ตอย่างลงตัว
สำหรับผู้ที่มองหายานยนต์ซีดานหรูหราที่มอบความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ ทั้งความสุนทรียภาพในการขับขี่ ความสะดวกสบายในการโดยสาร ระบบความบันเทิงล้ำสมัย และความปลอดภัยขั้นสูง Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium คือคำตอบที่ไร้ที่ติ ด้วยราคา 7,580,000 บาท นี่คือยนตรกรรมที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการความเป็นเลิศในทุกด้าน พร้อมด้วยการเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ที่มากขึ้น ด้วยระบบควบคุมทิศทางตัวรถแบบเลี้ยว 4 ล้อ (Rear axle steering 4.5°) ที่เข้ามาพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น
S 580 e AMG Premium มาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังที่ทรงประสิทธิภาพและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนผ่านระหว่างการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์และไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นแทบไม่รู้สึก ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างเงียบสงบและนุ่มนวล ระบบช่วงล่างแบบถุงลม Airmatic และระบบควบคุมการทรงตัวอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้การขับขี่มีความนุ่มนวลและมั่นคงในทุกสภาพเส้นทาง
จุดเด่นสำคัญคือระบบ Rear axle steering 4.5° ที่ช่วยให้ล้อหลังสามารถเลี้ยวได้เล็กน้อยในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้าขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ทำให้ S 580 e AMG Premium มีวงเลี้ยวที่แคบลงอย่างเห็นได้ชัด เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและการถอยจอดได้อย่างยอดเยี่ยม และเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ล้อหลังจะเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้า ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความมั่นคงในการเข้าโค้ง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งสนุกสนานและปลอดภัย
ภายในห้องโดยสารคืออาณาจักรแห่งความหรูหราที่มาพร้อมกลิ่นอายความสปอร์ตของ AMG เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa คุณภาพสูง พร้อมดีไซน์แบบสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน AMG และวัสดุตกแต่งภายในที่เน้นความหรูหราแต่ยังคงความโฉบเฉี่ยว ระบบความบันเทิง MBUX ล่าสุดพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ และระบบเสียง Burmester high-end 3D Surround Sound System มอบประสบการณ์ความบันเทิงระดับคอนเสิร์ตฮอลล์ นี่คือซีดานลักชัวรี่ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริหารที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด และผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ที่เร้าใจและเทคโนโลยีล้ำสมัย
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive: รถแวนระดับลักชัวรี่ 6 ที่นั่ง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
สำหรับผู้ที่ต้องการยานยนต์ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและความอเนกประสงค์ Mercedes-Benz V 300 d Exclusive คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยราคา 5,820,000 บาท นี่คือรถแวนระดับลักชัวรี่ 6 ที่นั่ง ที่นำเข้ามาตรฐานยุโรป ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการเดินทางแบบครอบครัว การใช้งานในทางธุรกิจ หรือการเป็นรถผู้บริหาร VIP ที่ต้องการความสะดวกสบายและความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส พร้อมทั้งเสริมสมรรถนะที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
V 300 d Exclusive มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้พละกำลังที่แข็งแกร่งและอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ดี ทำให้การเดินทางทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจ ระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษ ช่วยให้การขับขี่มีความนุ่มนวลและลดการสั่นสะเทือน ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะระยะทางใกล้หรือไกล
ภายในห้องโดยสารคือจุดเด่นที่แท้จริงของ V 300 d Exclusive เบาะนั่งแบบ Captain Seats จำนวน 4 ที่นั่งในตอนกลางและตอนหลังถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยการปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมที่พักแขนและพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง วัสดุหุ้มเบาะหนังคุณภาพสูง การตกแต่งภายในด้วยลายไม้หรืออลูมิเนียมขัดเงา และระบบไฟ Ambient Lighting ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้หลายเฉดสี สร้างบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลาย ระบบปรับอากาศแยกโซนสำหรับผู้โดยสารตอนหลังช่วยให้ทุกคนสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้านช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าออก
นอกจากนี้ V 300 d Exclusive ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครันตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อธุรกิจ การพักผ่อนกับครอบครัว หรือการรับส่งบุคคลสำคัญ V 300 d Exclusive คือยานยนต์ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว ด้วยความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความอเนกประสงค์ที่เหนือกว่ารถแวนทั่วไป
บทสรุป: วิสัยทัศน์แห่งความหรูหราและนวัตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้เน้นย้ำว่าการเปิดตัวยนตรกรรมทั้ง 6 รุ่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศในทุกด้านของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างแท้จริง แบรนด์ Mercedes-Maybach และรถยนต์กลุ่ม S-Class ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราแบบร่วมสมัย ด้วยการตกแต่งภายในที่ประณีต เทคโนโลยีล้ำสมัย และการออกแบบที่เหนือกาลเวลา ซึ่งถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรมพลังงานทางเลือกที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่
ในส่วนของรถยนต์กลุ่ม G-Class นั้น เป็นตัวแทนของขุมพลังและมรดกอันยิ่งใหญ่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ยังคงยืนหยัดในฐานะ “King of Off-Road” และได้ตอกย้ำถึงความสง่างามที่มาพร้อมความแข็งแกร่งและสมรรถนะขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญในการผสานตำนานเข้ากับอนาคต และสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางในการใช้งาน พร้อมความหรูหราในทุกมิติ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ได้นำเสนอรถแวนอเนกประสงค์ในกลุ่ม V-Class ที่เหมาะสำหรับทั้งกลุ่มครอบครัวและกลุ่มนักธุรกิจ พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานที่หลากหลายและเหนือความคาดหมาย
การเปิดตัวยนตรกรรมเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ แต่คือการประกาศจุดยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการเป็นผู้นำแห่งอนาคตของยนตรกรรมหรูหรา ที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านการเดินทาง แต่ยังมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ความรู้สึกภาคภูมิใจ และการเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ที่ขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืนอย่างแท้จริง

