อีซูซุ 2025: ปฏิวัติขุมพลังดีเซลด้วยเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE – ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งสมรรถนะและความประหยัด
ในวงการยานยนต์ปี 2025 ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง อีซูซุ แบรนด์ผู้นำตลาดรถปิกอัพและรถยนต์อเนกประสงค์ในประเทศไทย ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวขุมพลังใหม่ล่าสุด “เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE” และ “เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE” ที่ไม่เพียงแต่จะยกระดับมาตรฐานสมรรถนะให้เหนือชั้นขึ้น แต่ยังฉายภาพอนาคตแห่งการขับเคลื่อนที่รวดเร็ว แรง และประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมรองรับพลังงานหลากหลายในอนาคต อีซูซุยังคงยืนหยัดเป็นผู้นำด้วยตัวเลือกเครื่องยนต์ที่ครบครันที่สุดในตลาด ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE: พลังงานแห่งอนาคตที่สัมผัสได้วันนี้
หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้คือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE ขนาด 2.2 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่หมดจด ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “The FORCE of FUTURE” หรือพลังแห่งอนาคต ด้วยวิศวกรรมที่ล้ำสมัย เครื่องยนต์บล็อกนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกมิติ ความโดดเด่นของเครื่องยนต์นี้คือการผสานความเร็ว ความแรง และความประหยัดน้ำมันสูงสุดเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมทำสถิติเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่มีค่า CO2 ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอกย้ำถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทางเลือกในอนาคต
เปิดเผยสุดยอดเทคโนโลยีของ 2.2 Ddi MAXFORCE:
เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE เป็นแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 400 นิวตัน-เมตร ที่ช่วงรอบเครื่องยนต์ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ซึ่งเป็นช่วงรอบที่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน สิ่งที่น่าทึ่งคือแรงบิดช่วงออกตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 56% ส่งผลให้รถออกตัวได้อย่างรวดเร็วและทรงพลังแม้บรรทุกหนัก ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องรอรอบ
นอกจากสมรรถนะที่เร้าใจแล้ว ยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่าเดิม โดยเฉพาะในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู เกรด L ที่สามารถทำได้สูงสุดถึง 10.7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถปิกอัพและรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ นี่คือผลลัพธ์จากนวัตกรรมที่อัดแน่นเต็มพิกัด:
หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa. (ใหม่!): ระบบหัวฉีดที่ทำงานด้วยแรงดันสูงเป็นพิเศษนี้ช่วยให้การฉีดพ่นละอองน้ำมันละเอียดและกระจายตัวได้ทั่วถึง ส่งผลให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านกำลังและประหยัดเชื้อเพลิง
ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง (ใหม่!): หน่วยควบคุมเครื่องยนต์อัจฉริยะแบบ Multi-Core ทำงานร่วมกันหลายแกนประมวลผล ช่วยให้การควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็วในทุกสภาวะ เพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองและลดการสูญเสียพลังงาน
E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (ใหม่!): ระบบเทอร์โบแปรผันที่ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมดนี้ ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้สามารถปรับการไหลของไอเสียเข้าสู่กังหันได้อย่างเหมาะสมในทุกช่วงรอบเครื่องยนต์ ลดอาการรอรอบ (Turbo Lag) และเพิ่มการตอบสนองที่ฉับไวตั้งแต่รอบต่ำถึงรอบสูง
ห้องเผาไหม้แบบ HIGH SWIRL (ใหม่!): การออกแบบห้องเผาไหม้ที่สร้างกระแสอากาศหมุนวนอย่างรุนแรง (High Swirl) ช่วยให้ละอองน้ำมันคลุกเคล้ากับอากาศได้ดีเยี่ยมที่สุด ทำให้การเผาไหม้เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ลดเขม่าควัน และเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน
ลูกสูบใหม่ ULTRA-LOW FRICTION (ใหม่!): ลูกสูบที่ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีแรงเสียดทานต่ำเป็นพิเศษ ช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการเสียดสีภายในเครื่องยนต์ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นขึ้น และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
เสื้อสูบแกร่งพิเศษ แบบ EXTREME STRENGTH (ใหม่!): วัสดุและการออกแบบเสื้อสูบที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ทนทานต่อแรงเค้นสูง เพิ่มความเสถียรและความทนทานของเครื่องยนต์ในระยะยาว
ระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ใหม่! HI-FLOW (ใหม่!): ระบบหล่อลื่นที่ออกแบบมาเพื่อให้การไหลเวียนของน้ำมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดความร้อนสะสมและยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์
ชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวด้วยเฟืองและโซ่เหล็กกล้า TIMING GEAR & CHAIN (ใหม่!): ระบบขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งและทนทาน ช่วยให้การทำงานของวาล์วเป็นไปอย่างแม่นยำตลอดอายุการใช้งาน ลดปัญหาการบำรุงรักษา
เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE: พลังใหม่…กำหนดโลก!
สำหรับผู้ที่ต้องการพละกำลังสูงสุด อีซูซุยังคงนำเสนอเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE ที่ได้รับการอัปเกรดเช่นกัน ด้วยพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาลถึง 450 นิวตัน-เมตร ที่ช่วงรอบ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ซึ่งเป็นแรงบิดที่ต่อเนื่องและหนักแน่น ทำให้การขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกหนัก หรือการเร่งแซงบนเส้นทางระยะไกลเป็นไปอย่างมั่นใจและราบรื่น เครื่องยนต์บล็อกนี้มาพร้อมกับ E-VGS TURBO ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นในทุกช่วงความเร็ว มีให้เลือกทั้งในรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ และรถยนต์อเนกประสงค์มิว-เอ็กซ์
ระบบส่งกำลังใหม่: ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ
นอกเหนือจากขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่แล้ว อีซูซุยังได้ปฏิวัติระบบส่งกำลังเพื่อรองรับสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด:
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ REV TRONIC (ใหม่!): นับเป็นครั้งแรกของอีซูซุกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ให้อัตราทดเกียร์ต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็ว การมีจำนวนเกียร์ที่มากขึ้นช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ลดการกระชาก และรักษาอัตราทดที่เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์ ทำให้การขับขี่สนุกเร้าใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูงรอบเครื่องยนต์จะต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด
เกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ GENIUS SPORT SHIFT (ใหม่!): สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ตและควบคุมด้วยตนเอง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ได้รับการปรับปรุงอัตราทดใหม่ทั้งหมด ช่วยให้ออกตัวได้ดียิ่งขึ้นแม้บรรทุกหนัก และยังคงให้ความประหยัดน้ำมันที่ความเร็วสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวและความทนทานในการใช้งาน
NEW! MU-X The Next Peak: กำหนดจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่า
อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ The Next Peak 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE ปี 2025 ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดใหม่ของรถยนต์อเนกประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเพิ่มไลน์อัพใหม่! “NEW! MU-X The Next Peak รุ่น RS” ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ขับเคลื่อนสองล้อ เพื่อให้คุณพุ่งทะยานสู่จุดพีคที่สุดของสมรรถนะที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยพลังใหม่ที่พร้อมกำหนดโลก ให้คุณฝ่าทุกอุปสรรคได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมพามุ่งสู่จุดสูงสุดในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือการผจญภัยในเส้นทางที่ท้าทาย
ราคาจำหน่าย NEW! MU-X The Next Peak (โดยประมาณ ณ ปี 2025):
NEW! MU-X RS 4×4 ราคาตั้งแต่ 1,759,000 – 1,771,000 บาท
NEW! MU-X RS ราคาตั้งแต่ 1,624,000 – 1,671,000 บาท
NEW! MU-X Ultimate ราคาตั้งแต่ 1,554,000 – 1,601,000 บาท
NEW! MU-X Elegant ราคาตั้งแต่ 1,429,000 – 1,476,000 บาท
NEW! MU-X Active ราคาตั้งแต่ 1,194,000 – 1,206,000 บาท
รถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: พลังใหม่…กำหนดโลก!
รถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ ได้รับการเสริมทัพด้วยขุมพลัง Ddi MAXFORCE ทั้ง 2.2 ลิตร และ 3.0 ลิตร เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะเมืองไทย พร้อมตอบสนองทุกความต้องการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้งานเชิงพาณิชย์ไปจนถึงการผจญภัย และแน่นอนว่ารุ่นปี 2025 นี้ยังได้เพิ่มไลน์อัพใหม่ที่น่าสนใจ:
ISUZU V-CROSS 4×4 เกรด ZP เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบออฟโรดและต้องการสมรรถนะสูงสุดในการลุยทุกเส้นทาง
ISUZU D-MAX Spark 4×4 เกรด S เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE: ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการรถกระบะตอนเดียวสำหรับการบรรทุกหนัก แต่ยังคงต้องการความสะดวกสบายของเกียร์อัตโนมัติ และความสามารถในการขับเคลื่อนสี่ล้อ
นอกจากนี้ อีซูซุ ดีแมคซ์ ปี 2025 ยังมาพร้อมกับสีใหม่! “สีเทา Elbrus Grey Opaque (เทา เอลบรุส โอเพค)” ที่เสริมลุคหรูหราทันสมัย และสะท้อนนิยาม “กำหนดโลก” ให้กับรถปิกอัพคู่ใจ
ราคาจำหน่ายอีซูซุ ดีแมคซ์ (โดยประมาณ ณ ปี 2025):
NEW! ISUZU V-Cross 4×4 รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 937,000 – 1,284,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Hi-Lander รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 778,000 – 1,171,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Cab4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 749,000 – 902,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spacecab ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 668,000 – 784,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark 4×4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 740,000 – 787,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 558,000 – 655,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์จริง: การทดสอบขุมพลัง Ddi MAXFORCE
ในการเปิดตัวครั้งนี้ มีการทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ใหม่ในสนามแข่งระดับโลกอย่าง “สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” เพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพที่อีซูซุได้กล่าวอ้างถึง
ISUZU D-Max Hi-lander 2.2 Ddi MAXFORCE (เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด)
พละกำลังและอัตราเร่ง: สิ่งที่สัมผัสได้ทันทีตั้งแต่ออกตัวคือ แรงบิดที่จัดจ้านตั้งแต่รอบต่ำอย่าง 1,600 รอบ/นาที ซึ่งเกินความคาดหมายอย่างมาก การเร่งออกจากจุดหยุดนิ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งลึกก็สามารถสัมผัสถึงพละกำลังที่พร้อมพาตัวรถทะยานไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ ในจังหวะเร่งแซง ระบบเทอร์โบแปรผัน E-VGS TURBO ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ให้กำลังมาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอาการรอรอบให้รู้สึกหงุดหงิด ประสิทธิภาพการอัดอากาศที่ดีขึ้นทำให้การตอบสนองดีเยี่ยมในทุกช่วงความเร็ว
ความเงียบและความราบรื่น: หนึ่งในการพัฒนาที่โดดเด่นคือระดับเสียงของเครื่องยนต์ที่เงียบลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ทั้งในขณะสตาร์ทและขณะเร่งแซง เสียงรบกวนในห้องโดยสารลดลงอย่างมาก ทำให้การเดินทางยาวนานผ่อนคลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การทำงานของเครื่องยนต์ยังมีความราบรื่นและนุ่มนวลกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้ แม้กระทั่งการกดคันเร่งขณะรถจอดนิ่งก็สัมผัสได้ถึงการตอบสนองของรอบเครื่องยนต์ที่มาไวขึ้น
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด REV TRONIC: เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด คือพระเอกอีกคนของการทดสอบ การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่องจนแทบไม่รู้สึกถึงรอยต่อของแต่ละเกียร์ ช่วยให้การส่งผ่านกำลังเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบ Paddle Shift ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในการลดเกียร์เพื่อเพิ่มกำลังได้ในพริบตา สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือการมีจำนวนเกียร์ที่มากขึ้นส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำมัน เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ในเกียร์ 8 รอบเครื่องยนต์จะอยู่เพียงแค่ 1,900-1,950 รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งอัตราทดนี้รับประกันได้เลยว่าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมหาศาลในการเดินทางไกล นี่คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่อีซูซุตั้งใจมอบให้กับผู้ใช้งานเพื่อลดต้นทุนการขับขี่ในระยะยาว
MU-X The Next Peak 2.2 Ddi MAXFORCE (เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด)
ความลงตัวกับรถยนต์อเนกประสงค์: ด้วยเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับ D-Max แต่เมื่อมาอยู่ใน มิว-เอ็กซ์ ซึ่งมีน้ำหนักตัวรถมากกว่าเล็กน้อย แม้ว่าอัตราเร่งอาจจะไม่ได้จัดจ้านเท่ารถปิกอัพ แต่ความไหลลื่นและความนุ่มนวลของการเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดนั้นกลับทำให้ มิว-เอ็กซ์ มีบุคลิกการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์ การตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ที่ผสานกันอย่างลงตัว มอบความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย เหมาะสมอย่างยิ่งกับการใช้งานเป็นรถครอบครัวสำหรับการเดินทางระยะไกล หรือการขับขี่ในชีวิตประจำวันที่ต้องการความนุ่มนวลและความสะดวกสบาย
Slope Station: พิสูจน์ความแกร่งบนทางลาดชันพร้อมบรรทุกหนัก
การทดสอบในสถานี Slope Station เป็นการจำลองสถานการณ์การขับขี่ขึ้นและลงเนินชัน 18 องศา พร้อมโหลดน้ำหนักถึง 1,000 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการพิสูจน์ถึงพละกำลัง แรงบิด และความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกของรถปิกอัพได้อย่างแท้จริง การทดสอบนี้ดำเนินการด้วยรถปิกอัพ NEW! ISUZU D-MAX Spacecab M/T (เกียร์ธรรมดา) และ NEW! ISUZU D-MAX Spark A/T (เกียร์อัตโนมัติ) ที่มาพร้อมขุมพลัง Ddi MAXFORCE
ขึ้นเนินชันอย่างมั่นใจ: ด้วยแรงบิดที่สูงตั้งแต่รอบต่ำของเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE ทั้ง 2.2 และ 3.0 ลิตร ทำให้รถสามารถตะกุยขึ้นเนินชัน 18 องศาได้อย่างสบาย แม้จะมีน้ำหนักบรรทุกเต็มพิกัด 1,000 กิโลกรัม ผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงกำลังที่เหลือเฟือ ไม่ต้องเค้นเครื่องยนต์หนัก การทำงานของเกียร์ธรรมดา GENIUS SPORT SHIFT ที่มีอัตราทดใหม่ ช่วยให้การออกตัวบนทางลาดชันเป็นไปอย่างราบรื่นและทรงพลัง ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ REV TRONIC ก็สามารถเลือกอัตราทดที่เหมาะสมเพื่อส่งกำลังขึ้นเนินได้อย่างต่อเนื่อง
ลงเนินอย่างปลอดภัย: ในส่วนของการลงเนิน ระบบควบคุมการทรงตัวและระบบเบรกทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะด้วยเกียร์ธรรมดาที่สามารถใช้ Engine Brake ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเกียร์อัตโนมัติที่จัดการเปลี่ยนเกียร์เพื่อรักษาความเร็วให้เหมาะสม ช่วยให้รถลงเนินได้อย่างปลอดภัยและควบคุมได้ง่าย
บทสรุป: ก้าวที่มั่นคงสู่โลกยานยนต์แห่งอนาคต
การเปิดตัวเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE ในปี 2025 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของอีซูซุในการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อส่งมอบรถยนต์ที่มีสมรรถนะเหนือกว่า ประหยัดน้ำมันสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่ก้าวล้ำ ระบบส่งกำลังใหม่ที่ชาญฉลาด และการอัปเกรดไลน์อัพรถยนต์ทั้งอีซูซุ ดีแมคซ์ และมิว-เอ็กซ์ อีซูซุพร้อมแล้วที่จะ “กำหนดโลก” และพาผู้ขับขี่ทุกคนไปสู่ประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยพลัง ความสะดวกสบาย และความมั่นใจสูงสุด ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทางเลือก อีซูซุยังคงยืนยันในศักยภาพของเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง มาร่วมสัมผัส “The FORCE of FUTURE” ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศได้แล้ววันนี้!

