อีซูซุ 2025: ปฏิวัติขีดสุดแห่งพลัง Ddi MAXFORCE ปลดล็อกอนาคตการขับเคลื่อนที่เหนือกว่า
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ปี 2025 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่อีซูซุ ผู้บุกเบิกแห่งวงการดีเซล ได้ประกาศก้าวสู่ยุคใหม่ ด้วยการเปิดตัวขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล Ddi MAXFORCE เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่ไม่เพียงแค่ “เร็วขึ้น แรงขึ้น” แต่ยัง “ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม” พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นที่สุด และยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยค่า CO2 ที่ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน การมาถึงของเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และการอัปเกรดเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ครั้งนี้ คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกความต้องการของผู้ใช้งาน ทั้งในด้านพละกำลัง ความคล่องตัว และความยั่งยืนในระยะยาว นับเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถกระบะและรถยนต์อเนกประสงค์ของอีซูซุในประเทศไทยอย่างแท้จริง
เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE: พลังใหม่ที่ปฏิวัติทุกมิติ
หัวใจหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE ขนาด 2.2 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด นี่คือเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดอนาคตการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่อัดแน่นอยู่ภายใน
โครงสร้างพื้นฐานยังคงเป็นแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทาน แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือการปลดล็อกศักยภาพสูงสุด ด้วยพละกำลังที่เพิ่มขึ้นถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 400 นิวตัน-เมตร ที่ช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่น่าประทับใจบนกระดาษ แต่หมายถึงประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะแรงบิดช่วงออกตัวที่สูงขึ้นถึง 56% ทำให้รถสามารถออกตัวได้อย่างรวดเร็วและทรงพลัง ไม่ว่าจะในเมืองที่ต้องเร่งแซงบ่อยครั้ง หรือบนเส้นทางออฟโรดที่ต้องการกำลังในการไต่ระดับ
สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือเรื่องของ “ความประหยัดน้ำมัน” ที่ได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู เกรด L ที่สามารถทำอัตราประหยัดน้ำมันได้สูงขึ้นถึง 10.7% ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีภายในเครื่องยนต์ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น:
หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa. (ใหม่!): ระบบหัวฉีดใหม่ที่สามารถสร้างแรงดันได้สูงถึง 250 เมกะปาสคาล ซึ่งช่วยให้การฉีดเชื้อเพลิงเป็นละอองฝอยละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบ เพิ่มประสิทธิภาพและลดมลภาวะ การลงทุนในเทคโนโลยีหัวฉีดแรงดันสูงนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มพลัง แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อีซูซุ D-Max ประหยัดน้ำมัน ได้อย่างน่าทึ่ง
ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง (ใหม่!): หน่วยประมวลผลกลาง (Engine Control Module) แบบ Multi-Core ใหม่นี้ ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น รองรับการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้การตอบสนองของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างฉับไวและราบรื่นในทุกสภาวะการขับขี่
E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ใหม่!): เทอร์โบแปรผันที่ได้รับการควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์นี้ ช่วยให้สามารถปรับการทำงานของครีบเทอร์โบได้อย่างเหมาะสมในทุกช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ ทำให้สามารถสร้างแรงอัดอากาศได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการ Turbo Lag และให้พละกำลังที่ต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูง การพัฒนาเทคโนโลยีเทอร์โบนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล ของ Isuzu ก้าวกระโดด
ห้องเผาไหม้แบบ HIGH SWIRL (ใหม่!): การออกแบบห้องเผาไหม้ใหม่ให้มีการหมุนวนของอากาศที่สูงขึ้น (High Swirl) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผสมผสานระหว่างอากาศและเชื้อเพลิง ส่งผลให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และลดปริมาณไอเสียได้อย่างมีนัยสำคัญ
ลูกสูบใหม่ ULTRA-LOW FRICTION (ใหม่!): ลูกสูบที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ ทำให้การเคลื่อนที่ของลูกสูบเป็นไปอย่างราบรื่น ลดการสูญเสียพลังงาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน
เสื้อสูบแกร่งพิเศษ แบบ EXTREME STRENGTH พร้อมระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ใหม่! HI-FLOW และชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวด้วยเฟืองและโซ่เหล็กกล้า TIMING GEAR & CHAIN: การเสริมความแข็งแกร่งของเสื้อสูบด้วยวัสดุ Extreme Strength พร้อมระบบหล่อลื่นแบบ Hi-Flow ที่มีประสิทธิภาพสูง และชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวที่ใช้เฟืองและโซ่เหล็กกล้า เพิ่มความทนทานและเสถียรภาพในการทำงานของเครื่องยนต์ตลอดอายุการใช้งาน ทำให้มั่นใจได้ว่าขุมพลังใหม่นี้จะพร้อมลุยไปกับคุณในทุกสถานการณ์
ระบบส่งกำลังใหม่: ขีดสุดแห่งความราบรื่นและแม่นยำ
เพื่อให้การส่งผ่านพละกำลังจากเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE ไปยังล้อเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด อีซูซุยังได้พัฒนาระบบส่งกำลังใหม่ล่าสุดที่น่าสนใจไม่แพ้กัน:
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ REV TRONIC (ใหม่!): ครั้งแรกของอีซูซุกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด! นี่คือการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ด้วยอัตราทดเกียร์ที่ต่อเนื่องและครอบคลุมทุกช่วงความเร็ว ทำให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ราบรื่น และฉับไว มอบความสนุกเร้าใจในการขับขี่ แต่ยังคงรักษาความประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม การที่มีเกียร์มากขึ้นถึง 8 สปีดนี้เองที่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานในรอบที่ต่ำลงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประหยัดเชื้อเพลิงในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล
เกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ GENIUS SPORT SHIFT (ใหม่!): สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ตและต้องการควบคุมพละกำลังด้วยตัวเอง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด Genius Sport Shift มาพร้อมอัตราทดใหม่ที่ได้รับการปรับจูนมาเป็นอย่างดี ช่วยให้การออกตัวทำได้ดียิ่งขึ้นแม้บรรทุกหนักเต็มพิกัด และยังคงความประหยัดน้ำมันที่ความเร็วสูงได้อย่างน่าทึ่ง
เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE: พลังไร้ขีดจำกัด…กำหนดโลก!
นอกจากเครื่องยนต์ 2.2 ลิตรใหม่แล้ว อีซูซุยังได้อัปเกรดเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ให้ทรงพลังยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด มอบพละกำลังสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที พร้อม E-VGS TURBO ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศได้อย่างรวดเร็ว ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมในทุกช่วงความเร็วรอบ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE นี้มีให้เลือกทั้งใน อีซูซุ ดีแมคซ์ และ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะแรงจัด หรือ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง
NEW! MU-X The Next Peak 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: กำหนดจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่า
ในปี 2025 นี้ อีซูซุ MU-X ได้รับการยกระดับสู่ “The Next Peak” ด้วยการเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE ทั้ง 2.2 ลิตร และ 3.0 ลิตร พร้อมกับการเปิดตัวไลน์อัพใหม่ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะรุ่น NEW! MU-X The Next Peak รุ่น RS ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ขับเคลื่อนสองล้อ เพื่อให้คุณได้สัมผัสขีดสุดของสมรรถนะที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยพละกำลังใหม่ที่พร้อมจะกำหนดโลก ให้คุณฝ่าทุกอุปสรรคอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมพามุ่งสู่จุดสูงสุดแห่งการเดินทาง
Isuzu MU-X 2025 ราคา และรุ่นย่อยที่ปรับปรุงใหม่นี้ มอบความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
NEW! MU-X RS 4×4 ราคาตั้งแต่ 1,759,000 – 1,771,000 บาท
NEW! MU-X RS ราคาตั้งแต่ 1,624,000 – 1,671,000 บาท
NEW! MU-X Ultimate ราคาตั้งแต่ 1,554,000 – 1,601,000 บาท
NEW! MU-X Elegant ราคาตั้งแต่ 1,429,000 – 1,476,000 บาท
NEW! MU-X Active ราคาตั้งแต่ 1,194,000 – 1,206,000 บาท
รถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: พลังใหม่…กำหนดโลกแห่งรถกระบะ
รถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ ซึ่งเป็นตำนานของ รถกระบะ ประหยัดน้ำมัน และความทนทาน ก็ได้รับการเสริมทัพด้วยเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE ใหม่ทั้ง 2.2 ลิตร และ 3.0 ลิตรเช่นกัน พร้อมเพิ่มไลน์อัพใหม่ที่น่าสนใจ:
ISUZU V-CROSS 4×4 เกรด ZP เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE: สำหรับสายลุยตัวจริง ที่ต้องการพลังขับเคลื่อน 4 ล้อสุดแกร่ง ผสานกับความสะดวกสบายของเกียร์อัตโนมัติ
ISUZU D-MAX Spark 4×4 เกรด S เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE: ตอบโจทย์ผู้ใช้งานบรรทุกหนักที่ต้องการความคล่องตัวในการขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมความสะดวกสบายของเกียร์อัตโนมัติ
สีใหม่! สีเทา Elbrus Grey Opaque (เทา เอลบรุส โอเพค): เสริมนิยามความหรูหรา และความทันสมัยให้กับรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ ให้โดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น
Isuzu D-Max 2025 ราคา และรุ่นย่อยที่ปรับปรุงใหม่นี้ ยังคงความหลากหลายเพื่อทุกการใช้งาน:
NEW! ISUZU V-Cross 4×4 รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 937,000 – 1,284,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Hi-Lander รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 778,000 – 1,171,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Cab4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 749,000 – 902,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spacecab ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 668,000 – 784,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark 4×4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 740,000 – 787,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 558,000 – 655,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์ขับขี่: รีวิว Isuzu D-Max 2025 และ Isuzu MU-X 2025 ในสนามทดสอบ
ในการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่นี้ อีซูซุได้จัดให้มีการทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ใหม่ในสภาพการขับขี่จริง เพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่า และยืนยันถึงความกล้าหาญในการออกแบบและพัฒนา
ทดสอบ Isuzu D-Max Hi-lander 2.2 Ddi MAXFORCE บนสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
การได้ทดลองขับ อีซูซุ D-Max Hi-lander 2.2 Ddi MAXFORCE บนสนามแข่งระดับโลกอย่างสนามช้างฯ สร้างความประทับใจตั้งแต่ช่วงออกตัว จุดเด่นที่สัมผัสได้ทันทีคือพละกำลังมหาศาลที่มาตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,600 รอบ/นาที ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้งานจริงบ่อยที่สุดในชีวิตประจำวัน เพียงแค่แตะคันเร่งเบาๆ รถก็พร้อมทะยานออกไปอย่างมั่นคงและรวดเร็ว อาการรอรอบที่อาจเคยเป็นข้อกังวลในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าแทบจะไม่มีให้เห็น ด้วยการทำงานอันชาญฉลาดของเทอร์โบลูกใหม่ E-VGS TURBO ที่ส่งกำลังมาอย่างต่อเนื่องและทันใจ ทำให้การเร่งแซงบนถนนหลวงทำได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
นอกจากพละกำลังแล้ว สิ่งที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือ “ความเงียบ” และ “ความราบรื่น” ของเครื่องยนต์ หากเทียบกับเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร รุ่นก่อนหน้านี้ เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE มีเสียงที่เบาลงอย่างชัดเจนตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ และยังคงความเงียบสงบในระหว่างการเร่งแซง การทำงานที่ราบรื่นยิ่งขึ้นนี้ส่งผลโดยตรงต่อความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะทางไกล
พระเอกอีกหนึ่งอย่างคือ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่ล่าสุด การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลและแทบไม่รู้สึกถึงรอยต่อ ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างไหลลื่นไร้สะดุด ในจังหวะที่ต้องการเร่งแซง เกียร์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ และเมื่อใช้ Paddle Shift เพื่อลดเกียร์ ระบบก็ทำงานได้ฉับไวตามสั่ง
แต่ที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่มองหา รถกระบะ ประหยัดน้ำมัน คือความสามารถในการรักษาอัตราสิ้นเปลือง การมีเกียร์มากถึง 8 สปีดนี้เองที่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานในรอบที่ต่ำลงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง จากการทดสอบพบว่าเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ในเกียร์ 8 รอบเครื่องยนต์อยู่ที่เพียง 1,900-1,950 รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งอัตราทดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยมในการขับขี่ทางไกลอย่างแน่นอน
ทดสอบ NEW! MU-X The Next Peak 2.2 Ddi MAXFORCE
เมื่อนำเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE เดียวกันมาวางใน NEW! MU-X The Next Peak ซึ่งมีน้ำหนักตัวรถที่มากกว่ารถกระบะ ดีแมคซ์ แน่นอนว่าอัตราเร่งอาจจะไม่ได้พุ่งทะยานเท่ากับ D-Max แต่สิ่งที่โดดเด่นกลับเป็นความ “ไหลลื่น” และ “นุ่มนวล” ของการเปลี่ยนเกียร์ นี่คือคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ รถครอบครัว ประหยัดน้ำมัน และรถยนต์อเนกประสงค์ที่เน้นความสบายในการเดินทาง ระบบเกียร์ใหม่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม มอบความต่อเนื่องในการส่งกำลังที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือออกเดินทางไกล รีวิว Isuzu MU-X 2025 พบว่าเครื่องยนต์ใหม่นี้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัว และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการขับขี่ได้อย่างไร้ที่ติ
Slope Station: บทพิสูจน์พละกำลังในการบรรทุกหนัก
อีซูซุยังได้จัดให้มีการทดสอบในสถานี Slope Station เพื่อพิสูจน์ถึงพละกำลังและความทนทานของเครื่องยนต์ใหม่ โดยใช้ รถปิกอัพ NEW! ISUZU D-MAX Spacecab M/T และ NEW! ISUZU D-MAX Spark A/T ขึ้นและลงเนินชัน 18 องศา พร้อมโหลดน้ำหนักเพิ่ม 1,000 กิโลกรัม การทดสอบนี้เป็นการจำลองสถานการณ์การใช้งานจริงของ รถกระบะบรรทุกหนัก ผลลัพธ์ที่ได้คือความประทับใจในพละกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE ที่สามารถนำพารถและน้ำหนักบรรทุกจำนวนมากไต่ขึ้นเนินชันได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย โดยไม่แสดงอาการเหนื่อยล้า การควบคุมรถยังคงทำได้อย่างแม่นยำและมั่นใจ นี่คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าเครื่องยนต์ใหม่นี้ไม่เพียงแค่ให้ความเร็วและความประหยัด แต่ยังมาพร้อมความแกร่งและความทนทานที่พร้อมรองรับงานหนักทุกรูปแบบ
บทสรุป: ก้าวแห่งอนาคตที่ยั่งยืนของอีซูซุ
การเปิดตัวเครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE เจเนอเรชันใหม่ในปี 2025 นี้ ถือเป็นการประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของอีซูซุ ในการส่งมอบนวัตกรรมยานยนต์ที่ผสานรวมเอาขีดสุดแห่งสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ระบบส่งกำลังใหม่ และไลน์อัพรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ อีซูซุไม่เพียงแต่มอบทางเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบัน แต่ยังพร้อมรองรับเทคโนโลยีและพลังงานที่หลากหลายในอนาคตได้อย่างไร้กังวล
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ลดมลพิษ ที่ยังคงมอบพละกำลังและสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสกับ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหนือกว่าในทุกมิติ เครื่องยนต์ Ddi MAXFORCE ใหม่นี้คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัว การทำธุรกิจ หรือการเดินทางเพื่อไลฟ์สไตล์ อีซูซุ 2025 พร้อมแล้วที่จะพาคุณก้าวไปข้างหน้า สู่ยุคใหม่แห่งการขับเคลื่อนที่เหนือกว่าอย่างแท้จริง ไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่อันน่าตื่นเต้นนี้ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ และค้นพบว่าทำไม Isuzu Ddi MAXFORCE จึงเป็น “The FORCE of FUTURE” ของคุณ
	    	
		    
