Leapmotor B10: ปรากฏการณ์ใหม่ของ B-SUV ไฟฟ้าที่จะเขย่าตลาดไทยในปี 2568
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2568 กำลังทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคมีความต้องการรถ EV ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ทั้งด้านดีไซน์ สมรรถนะ เทคโนโลยี และราคาที่เข้าถึงได้ ในท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดนี้ Leapmotor แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าดาวรุ่งจากจีน ภายใต้การดูแลของ PNA Group พระนครยนตรการ ในฐานะผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับสิทธิ์จำหน่ายจากกลุ่ม Stellantis ได้เตรียมส่งไม้เด็ดรุ่นใหม่ล่าสุดลงสู่สังเวียน นั่นคือ Leapmotor B10 รถยนต์ไฟฟ้าในพิกัด B-SUV ที่มาพร้อมความหวังครั้งใหม่ ที่จะสร้างปรากฏการณ์และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าจับตามองในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025
หลังจากที่ Leapmotor C10 ได้เข้ามาสร้างความประทับใจด้วยช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาและปรับจูนโดยทีมวิศวกรจาก Maserati ไปแล้ว แม้จะยังไม่สามารถกวาดยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ทาง PNA Group ก็ไม่หยุดนิ่ง และได้เตรียมเปิดตัว Leapmotor B10 ซึ่งเป็นรุ่นน้องเล็กที่จะมาเติมเต็มไลน์อัพและเจาะตลาดกลุ่มที่ใหญ่กว่า ด้วยจุดเด่นที่ครบครัน ทั้งดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า ที่เร้าใจ เทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย และที่สำคัญคือ ราคารถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจ ทำให้ Leapmotor B10 พร้อมแล้วที่จะเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการพิชิตใจผู้บริโภคชาวไทย
ดีไซน์ภายนอก: ความลงตัวของความสปอร์ตและความสง่างาม
Leapmotor B10 มาพร้อมดีไซน์ที่สะท้อนถึงความทันสมัยและความแข็งแกร่งในแบบฉบับของ B-SUV ไฟฟ้า รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว กระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมไฟหน้า LED ดีไซน์ล้ำสมัยที่ให้ความสว่างคมชัดและช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ มิติตัวถังของ Leapmotor B10 มีขนาดที่ลงตัวสำหรับการใช้งานในเมืองและการเดินทางต่างจังหวัด โดยมีความยาว 4,515 มิลลิเมตร กว้าง 1,885 มิลลิเมตร สูง 1,655 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดที่กะทัดรัดแต่ยังคงให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวางเมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน และยังมีระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 170 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ในการขับขี่บนสภาพถนนที่หลากหลาย
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Leapmotor C10 ที่มีมิติ 4,739 x 1,900 x 1,680 มม. และฐานล้อ 2,825 มม. จะเห็นได้ว่า B10 มีขนาดที่เล็กกว่าเล็กน้อย ทำให้คล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและจอดรถได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงรักษาความรู้สึกของรถ SUV ที่ดูบึกบึนและมีสไตล์ ล้ออัลลอย Star Sports ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 R18 ช่วยเติมเต็มความสปอร์ตและสมดุลให้กับรูปลักษณ์ภายนอกได้อย่างลงตัว
ขุมพลังไฟฟ้าและสมรรถนะการขับขี่: แรง ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หัวใจสำคัญของ Leapmotor B10 คือ ขุมพลังไฟฟ้า ที่ให้สมรรถนะน่าประทับใจ มีให้เลือก 2 รูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ขับขี่ โดยทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวที่ล้อหลัง (RWD Rear-Wheel Drive) ให้พละกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า (160 kW) และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายใน 8 วินาที และความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. มั่นใจได้ถึงการตอบสนองที่รวดเร็วและนุ่มนวลตามสไตล์ รถ EV
รุ่น LIFE 56.2 kWh: มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) คุณภาพสูงจาก CATL ขนาดความจุ 56.2 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 470 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะกลางเป็นหลัก
รุ่น STYLE / DESIGN 67.1 kWh: อัปเกรดด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) จาก CATL ที่มีความจุ 67.1 kWh สามารถวิ่งได้ไกลถึง 516 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการระยะทางขับขี่ที่ยาวนานขึ้น มอบความมั่นใจในการเดินทางไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยครั้ง
แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แบบ LFP (Lithium Iron Phosphate) ที่ใช้ใน Leapmotor B10 นั้นขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนาน และความปลอดภัยที่สูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภทอื่น ๆ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในระยะยาว
ระบบช่วงล่าง: ความสบายและความมั่นคงในทุกเส้นทาง
Leapmotor B10 ได้รับการออกแบบช่วงล่างที่เน้นความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความมั่นคง ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut ซึ่งเป็นที่นิยมและให้การขับขี่ที่คล่องตัว ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบอิสระ 4-Links ซึ่งช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเข้าโค้งและการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือบนถนนที่ขรุขระ การผสมผสานของระบบช่วงล่างทั้งสองแบบนี้ทำให้ Leapmotor B10 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล นั่งสบาย และมั่นใจได้ในทุกสภาพเส้นทาง ยิ่งไปกว่านั้น ยางขนาด 225/50 R18 ที่จับคู่กับล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น
การชาร์จไฟฟ้า: สะดวก รวดเร็ว และรองรับอนาคต
เรื่องของการชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า คือปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ Leapmotor B10 เข้าใจถึงความต้องการนี้ จึงมาพร้อมระบบการชาร์จที่ครบครันและรองรับการใช้งานในยุคปัจจุบันและอนาคต
การชาร์จกระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 11 kW ทำให้สามารถชาร์จไฟจาก Wall Charger ที่บ้านได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยสามารถชาร์จเต็มในเวลากลางคืนเพื่อพร้อมใช้งานในวันถัดไป
การชาร์จกระแสตรง (DC Fast Charging):
รุ่น Life 56.2 kWh รองรับสูงสุด 140 kW
รุ่น Style/Design 67.1 kWh รองรับสูงสุด 168 kW
ด้วยขีดความสามารถในการชาร์จ DC ที่สูงนี้ ทำให้ Leapmotor B10 สามารถชาร์จไฟจาก 30% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 18-20 นาที ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องระยะเวลาการรอชาร์จเมื่อเดินทางไกล และทำให้การเดินทางด้วย รถครอบครัวไฟฟ้า เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Leapmotor B10 ยังมาพร้อมฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) หรือระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก สูงสุด 3.3 kW ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าในกิจกรรมกลางแจ้ง การตั้งแคมป์ หรือแม้แต่เป็นแหล่งพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉิน ทำให้ B10 ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่ยังเป็นเหมือนสถานีพลังงานเคลื่อนที่ส่วนตัว
ภายในห้องโดยสาร: ความสบาย ความหรูหรา และเทคโนโลยีล้ำสมัย
เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Leapmotor B10 คุณจะสัมผัสได้ถึงความกว้างขวาง ความหรูหรา และการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก จุดเด่นที่สะดุดตาคือ หลังคากระจก Panoramic Roof แบบ Fixed ที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย และมาพร้อมม่านบังแดดที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบายและควบคุมแสงแดดได้ตามต้องการ
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมระบบกรองฝุ่น PM 2.5 ช่วยให้มั่นใจได้ถึงอากาศที่บริสุทธิ์และสดชื่นภายในห้องโดยสารตลอดการเดินทาง ระบบกุญแจ Bluetooth และ NFC Card มอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงและสตาร์ทรถ เบาะนั่งได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โครงสร้าง 7 ชั้น พร้อมการรับรอง OEKO-TEX Certification ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยืนยันถึงความปลอดภัยของวัสดุที่ไม่มีสารอันตราย และสำหรับรุ่นเริ่มต้นจะหุ้มด้วยผ้าคุณภาพดี ให้ความรู้สึกสบายและระบายอากาศได้ดี เบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับด้วยมือได้ (ในรุ่น Life) และเบาะนั่งด้านหลังสามารถแยกพับอิสระแบบ 60:40 และพับได้เรียบสนิท ทำให้เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้สูงสุด ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของ รถยนต์ไฟฟ้า
แผงประตูบุด้วยวัสดุนุ่ม และช่องแอร์ตกแต่งด้วยโครเมียมเพิ่มความหรูหรา พวงมาลัยแบบสปอร์ตสีทูโทน พร้อมสวิตซ์ควบคุมบนพวงมาลัย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ที่โดดเด่นภายในห้องโดยสารประกอบด้วย:
จอมาตรวัด Full Digital LCD แบบสี ขนาด 8.8 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ที่ชัดเจนและครบถ้วน
หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 14.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K: เป็นศูนย์กลางการควบคุมความบันเทิงและข้อมูลต่างๆ รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย (Wireless) ซึ่งจะเริ่มใช้งานได้ในเดือนธันวาคม 2568 (ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์) นอกจากนี้ยังมีระบบแผนที่นำทาง Here Map มาให้ใช้งานอีกด้วย
ลำโพง 6 ตำแหน่ง: มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและเต็มอรรถรส
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) 15W: เพิ่มความสะดวกสบายในการชาร์จอุปกรณ์
ช่องชาร์จ USB Type C 60W: รองรับการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลายและรวดเร็ว
ความแตกต่างในแต่ละรุ่นย่อย: LIFE, STYLE, DESIGN
Leapmotor B10 เวอร์ชั่นไทย มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ซึ่งนำเข้าแบบ CBU จากประเทศจีน โดยแต่ละรุ่นมาพร้อมราคาและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการ:
B10 Life 56.2 kWh (688,000 บาท): รุ่นเริ่มต้นที่คุ้มค่าที่สุด มาพร้อมขุมพลัง 218 แรงม้า แบตเตอรี่ 56.2 kWh วิ่งได้ 470 กม. (NEDC) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึง รถยนต์ไฟฟ้า คุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้
B10 Style 67.1 kWh (748,000 บาท): เพิ่มเติมจากรุ่น Life ด้วย
แบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) ขนาดความจุ 67.1 kWh
ระยะทางวิ่ง 516 กม. (มาตรฐาน NEDC)
การชาร์จ DC รองรับสูงสุด 168 kW
กระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฝ้า
รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการระยะทางขับขี่ที่ไกลขึ้น และฟังก์ชันเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกสบาย
B10 Design 67.1 kWh (788,000 บาท): รุ่นท็อปที่จัดเต็มด้วยฟังก์ชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่หรูหรายิ่งขึ้น เพิ่มเติมจากรุ่น Style ด้วย
กระจกหน้าต่างด้านหลังแบบ Privacy Glass เพื่อความเป็นส่วนตัว
กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า และพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light ปรับได้ 64 สี สร้างอารมณ์ที่แตกต่างกันในทุกการขับขี่
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสบายในการขนสัมภาระ
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ECO Leather ให้สัมผัสที่หรูหราและดูแลรักษาง่าย
เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง
เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศ (Ventilation Seats) และระบบอุ่น (Heated Seats) เพิ่มความสบายสูงสุดในทุกสภาพอากาศ
ที่วางแขนเบาะนั่งด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว
ลำโพง 12 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงที่เหนือระดับ
รุ่น Design เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหรา ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีระดับพรีเมียมอย่างเต็มที่
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS: มั่นใจทุกเส้นทาง
ความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ Leapmotor ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง Leapmotor B10 จัดเต็มด้วยระบบความปลอดภัยทั้งแบบ Passive และ Active ที่ทันสมัย เพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกสถานการณ์
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ได้แก่:
ระบบเบรก ABS / EBD / BA
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC (Vehicle Dynamic Control)
ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC (Traction Control System)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HHC (Hill Hold Control)
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาด BOS (Brake Override System)
ระบบสัญญาณเตือนหยุดรถฉุกเฉิน ESS (Emergency Signal System)
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชัน AVH (Auto Vehicle Hold)
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-กลางเบาะคู่หน้า) มอบการปกป้องที่ครอบคลุม
กล้องรอบคัน 360 องศา และเซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง ช่วยให้การจอดรถเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย
นอกจากนี้ Leapmotor B10 ยังโดดเด่นด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ระดับ L2 ที่ใช้เรดาร์ Ultrasonic 4 ตัว และเซ็นเซอร์ MMW 2 ตัว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่:
ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Semi-Autonomous L2: ช่วยลดภาระการขับขี่ในสภาพจราจรที่ติดขัด
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control): รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LCC (Lane Centering Control): ช่วยให้รถวิ่งอยู่กึ่งกลางเลนอย่างต่อเนื่อง
ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keeping Assist): ป้องกันรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
ระบบควบคุมรถฉุกเฉินให้อยู่ในเลน ELKA (Emergency Lane Keeping Assist): ช่วยเหลือกรณีรถเบี่ยงออกนอกเลนอย่างกะทันหัน
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning): แจ้งเตือนเมื่อรถเริ่มเบี่ยงออกนอกเลน
ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW (Front Collision Warning): แจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหน้า
ระบบเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning): แจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหลัง
ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูรถ DOW (Doors Open Warning): แจ้งเตือนผู้โดยสารเมื่อมีการเปิดประตูในขณะที่มีรถแล่นผ่านมา
ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection): แจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา
ระบบเบรกอัตโนมัติ AEB (Advanced Emergency Braking): ทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงหรือหลีกเลี่ยงการชน
ระบบตรวจจับการปล่อยมือบนพวงมาลัย HOD (Hands Off Detection): ตรวจจับการปล่อยมือจากพวงมาลัยเพื่อความปลอดภัย
ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert): แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งตัดผ่านขณะถอยจอด
ระบบเบรกอัตโนมัติด้านหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Braking): ทำการเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบรถตัดผ่านขณะถอยหลัง
ระบบช่วยควบคุมความเร็ว ISA (Intelligent Speed Assist): ช่วยควบคุมความเร็วให้เป็นไปตามกฎหมายจราจร
ระบบตรวจจับเมื่อคนขับเหนื่อยล้า DDAW (Driver Drowsiness Attention Warning) และ ADDW (Advanced Driver Distraction Warning): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อตรวจพบอาการเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิ
ฟังก์ชันเหล่านี้ทำให้ Leapmotor B10 ไม่เพียงแค่เป็น รถ EV ที่ทันสมัย แต่ยังเป็นรถที่มอบความอุ่นใจและความปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ในสภาพจราจรที่ซับซ้อนของประเทศไทย
สรุป: Leapmotor B10 ความหวังใหม่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย
Leapmotor B10 ถือเป็นก้าวสำคัญของ Leapmotor ในตลาดประเทศไทย ด้วยการนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้า ในพิกัด B-SUV ที่มีจุดเด่นรอบด้าน ทั้งดีไซน์ที่ดึงดูดใจ สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า ที่ตอบสนองได้ดี แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ให้ระยะทางวิ่งน่าประทับใจ การชาร์จที่รวดเร็ว ภายในรถยนต์ไฟฟ้า ที่กว้างขวาง หรูหรา และเต็มไปด้วย เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ล้ำสมัย รวมถึงระบบความปลอดภัย ADAS ที่ครบครันในทุกรุ่นย่อย
ใน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่มีการแข่งขันสูง Leapmotor B10 ด้วย ราคารถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจ ตั้งแต่ 688,000 บาท ถึง 788,000 บาท ทำให้รถรุ่นนี้มีศักยภาพสูงที่จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด B-SUV ไฟฟ้า และเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมทั้งช่วย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Leapmotor B10 จึงไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของอนาคตการเดินทางที่เข้าถึงได้จริงสำหรับทุกคน.
