BMW M5 ใหม่ 2025: 40 ปีแห่งตำนาน สู่มิติใหม่ของสมรรถนะไฮบริดสุดขีด
ปี 2025 เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 4 ทศวรรษของ BMW M5 ซีดานสมรรถนะสูงในตำนาน ที่ได้กลับมาเขย่าวงการยานยนต์อีกครั้งกับเจนเนอเรชั่นที่ 7 ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ด้วยการผสานเทคโนโลยี M HYBRID เข้ามาเป็นขุมพลังขับเคลื่อนเป็นครั้งแรก หัวใจของ “รถซีดานตัวแรง” คันนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ความดุดัน แต่ยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรมที่พร้อมพาทุกท่านก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งการขับขี่ ด้วยการผสมผสานอันลงตัวระหว่างพละกำลังอันมหาศาลจากเครื่องยนต์สันดาป V8 เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง BMW M5 ใหม่ จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานยนต์ แต่คือสัญลักษณ์แห่งวิวัฒนาการที่ตอบโจทย์ทั้งความแรง ความประหยัด และความยั่งยืนในแบบฉบับ M ที่แท้จริง
มิติใหม่แห่งขุมพลัง M HYBRID: เมื่อตำนานผนึกกำลังกับอนาคต
ภายใต้รูปลักษณ์ที่สง่างามแต่แฝงด้วยความดุดันของ BMW M5 ใหม่ ปี 2025 นี้ คือหัวใจ M HYBRID อันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ นี่คือการรวมกันของสองขั้วพลังที่สร้างสรรค์ผลลัพธ์อันน่าทึ่ง:
เครื่องยนต์ V8 M TwinPower Turbo: หัวใจหลักยังคงเป็นเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตร เทคโนโลยี M TwinPower Turbo ที่ได้รับการขัดเกลามาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบพละกำลังสูงสุดถึง 430 กิโลวัตต์ หรือ 585 แรงม้า เครื่องยนต์บล็อกนี้เป็นผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรมที่สืบทอดจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ตของ BMW M ได้อย่างเต็มเปี่ยม มอบการตอบสนองที่ฉับไวและแรงบิดมหาศาลในทุกรอบเครื่องยนต์ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์สันดาปนี้ยังคงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สร้างประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจในแบบที่แฟน ๆ M คุ้นเคย
มอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง: ผนึกกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ หรือ 197 แรงม้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เสริมประสิทธิภาพด้านสมรรถนะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยส่งแรงบิดได้ในทันที ทำให้การออกตัวและเร่งแซงเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น
เมื่อเครื่องยนต์ V8 และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันผ่านเกียร์ M Steptronic 8 จังหวะที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ผลลัพธ์ที่ได้คือพละกำลังรวมอันน่าทึ่งกว่า 535 กิโลวัตต์ หรือ 727 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 1,000 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงขีดสุดแห่งวิศวกรรมยานยนต์ การผสมผสานนี้ทำให้ BMW M5 ใหม่ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.5 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่รถซูเปอร์คาร์หลายรุ่นยังต้องอิจฉา ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อม M Driver’s Package ซึ่งสามารถปลดล็อกได้หลังจากขับขี่ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 กิโลเมตร ณ ศูนย์บริการ BMW นี่คือการเปิดประตูสู่โลกแห่งความเร็วที่ไม่เป็นรองใคร
นอกจากพละกำลังดิบแล้ว ระบบ M HYBRID ยังนำเทคโนโลยีสุดล้ำที่พัฒนามาจากรถแข่งแบบ Endurance ของ BMW มาปรับใช้ เพื่อให้การตอบสนองต่อคันเร่งเป็นไปอย่างฉับไวในพริบตาเดียว ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ถึงการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับตัวรถในทุกจังหวะการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซง การเข้าโค้ง หรือการเปลี่ยนเลน สัญญาณเสียงจากระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ผ่านการปรับแต่งมาอย่างประณีตก็ช่วยเติมเต็มอารมณ์สปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และโดดเด่นด้วยปลายท่อไอเสียสี Black Chrome ขนาด 100 มิลลิเมตร ที่บ่งบอกถึงความพิเศษของรุ่น M
ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า: สุนทรียภาพที่เงียบสงบแต่ทรงพลัง
สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง BMW M5 ใหม่ ยังมอบโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วน (ELECTRIC Mode) ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือโซนที่ต้องการความเงียบสงบ มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้อย่างราบรื่นและปราศจากมลภาวะ นอกจากนี้ ระบบ BMW IconicSounds Electric ยังเข้ามาเติมเต็มสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยเสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์ที่ไพเราะและสอดคล้องกับการควบคุม ทำให้การขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนไม่เคยน่าเบื่ออีกต่อไป นับเป็นอีกขั้นของ นวัตกรรมยานยนต์ ที่ผสานประสิทธิภาพและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไว้ได้อย่างลงตัว
ช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน: ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะสูงสุด
พลังขับเคลื่อนอันมหาศาลของ BMW M5 ใหม่ ถูกส่งลงสู่พื้นถนนอย่างแม่นยำผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ โดยเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหลัง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและตอบสนองตามสไตล์ของรถสปอร์ตซีดานขนานแท้ ผู้ขับขี่ที่ต้องการความท้าทายขั้นสุด ยังสามารถเปิดใช้งานโหมด 2WD เพื่อส่งกำลังไปยังล้อหลังเพียงอย่างเดียว พร้อมปิดระบบ DSC (Dynamic Stability Control) เพื่อการขับขี่ที่ฉับไวและเร้าใจที่สุดบนสนามแข่ง ระบบนี้เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงขีดจำกัดของตัวรถและความสามารถในการควบคุมได้อย่างเต็มที่
เพื่อรองรับสมรรถนะระดับสูงนี้ BMW M5 ใหม่ จึงมาพร้อมเทคโนโลยีแชสซีขั้นสูงที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ รวมถึง:
พวงมาลัยแบบ M Servotronic: มอบการควบคุมที่เฉียบคมและแม่นยำ พร้อมการตอบสนองที่หนักแน่นในทุกความเร็ว
ระบบบังคับเลี้ยวแบบสี่ล้อ Integral Active Steering: ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ และเพิ่มเสถียรภาพในการเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างง่ายดายและมั่นใจ
ช่วงล่าง Adaptive M: ระบบนี้สามารถปรับการทำงานได้ตามสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบเน้นความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางไกล หรือการปรับเป็นโหมดสปอร์ตเพื่อการยึดเกาะถนนสูงสุดในการขับขี่ที่ดุดัน ผู้ขับขี่สามารถกำหนดลักษณะการขับขี่ของ BMW M5 ใหม่ ได้ในทุกมิติ
การผสานรวมของเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ BMW M5 ใหม่ ไม่เพียงแต่เร็วและแรง แต่ยังมีความนิ่งและเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ยกระดับ ประสบการณ์ขับขี่เร้าใจ ในแบบ M สู่มิติใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่แฝงด้วยความดุดันแบบ M
BMW M5 ใหม่ ปี 2025 มาพร้อมงานออกแบบที่สื่อถึงความสง่างามในสไตล์สปอร์ตตัวแรงอย่างแท้จริง ทุกเส้นสายได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนถึงสมรรถนะอันเหนือชั้นและเอกลักษณ์ของตระกูล M รายละเอียดที่โดดเด่นได้แก่:
ซุ้มล้อและสเกิร์ตข้างที่เด่นสะดุดตา: การออกแบบที่กว้างขึ้นและมีมิติเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์และการยึดเกาะถนน
ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ M: ขนาด 20 นิ้วสำหรับคู่หน้า และ 21 นิ้วสำหรับคู่หลัง ในดีไซน์ Double Spoke สีดำ ไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนักใต้สปริงเพื่อสมรรถนะที่ดีขึ้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบที่เสริมความดุดันและหรูหราให้กับรูปลักษณ์ภายนอก
กันชนหน้าที่มีเส้นสายบึกบึน: การออกแบบที่เน้นความแข็งแกร่งและช่องรับลมขนาดใหญ่ สะท้อนถึงความต้องการอากาศในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์สมรรถนะสูง
โลโก้ “M5” ที่ประทับนูนอยู่บนส่วน Hofmeister kink: รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรุ่น M5
ทุกองค์ประกอบภายนอกของ BMW M5 ใหม่ ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างตั้งใจ เพื่อให้เป็น รถหรูสมรรถนะสูง ที่สามารถดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน พร้อมบ่งบอกถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดที่อยู่ภายใต้เรือนร่างอันสง่างามนี้
ภายในห้องโดยสาร: สุนทรียภาพแห่งความหรูหรา ผสานกับการควบคุมแบบสปอร์ต
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ BMW M5 ใหม่ คุณจะพบกับบรรยากาศที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว องค์ประกอบภายในได้รับการคัดสรรมาสำหรับรถยนต์ตระกูล M โดยเฉพาะ เพื่อเน้นย้ำถึงบุคลิกที่หลากหลายของรถคันนี้
พวงมาลัยหนัง M ดีไซน์ใหม่: รูปทรงตัดขอบล่าง พร้อมปุ่ม M แบบมีไฟส่องสว่าง ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงโหมดการขับขี่ที่ตั้งค่าไว้ได้อย่างรวดเร็ว
เบาะนั่ง M Multifunction: ออกแบบมาเพื่อมอบการรองรับสูงสุดทั้งในระหว่างการขับขี่แบบปกติและการขับขี่สมรรถนะสูง มอบความสบายและความมั่นคงในทุกสถานการณ์
จอแสดงผลโค้ง BMW Curved Display: รองรับการแสดงข้อมูลเฉพาะสำหรับรถยนต์ตระกูล M ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างง่ายดาย
ระบบควบคุม BMW iDrive เวอร์ชันอัปเกรด: เปิดให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถโต้ตอบกับระบบต่าง ๆ ของรถผ่านการสัมผัสและการสั่งงานด้วยเสียงที่ใช้งานง่ายและลื่นไหล
บรรยากาศภายในห้องโดยสาร: โอ่อ่าและหรูหราด้วยเบาะหนัง Merino ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ระบบควบคุม BMW Interaction Bar ระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน และชุดไฟห้องโดยสารที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับรถยนต์ตระกูล M
ความสะดวกสบายและความบันเทิง: ระบบเสียง Bowers & Wilkins Surround Sound มอบประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม แท่นชาร์จไร้สาย ระบบ Comfort Access และระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวัน
นี่คือ ภายในสุดหรู BMW ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรนเปรอทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด
แผงควบคุมกลาง: ศูนย์รวมแห่งการปรับแต่งสมรรถนะ
แผงควบคุมบนคอนโซลกลางของ BMW M5 ใหม่ ได้รับการจัดวางอย่างเป็นระเบียบและเข้าถึงได้ง่าย ประกอบด้วยปุ่มควบคุมฟังก์ชันเฉพาะรุ่นมากมายที่พร้อมให้ผู้ขับขี่ใช้ปรับแต่งการทำงานของตัวรถในหลากหลายด้านได้อย่างละเอียด ตั้งแต่:
โหมดการทำงานของเครื่องยนต์ (Engine): ปรับการตอบสนองและความดุดันของเครื่องยนต์
ระบบ Drivelogic (Transmission): ควบคุมการทำงานของเกียร์ M Steptronic
ช่วงล่าง (Chassis): เลือกการตั้งค่าความแข็ง-อ่อนของช่วงล่าง Adaptive M
พวงมาลัย (Steering): ปรับน้ำหนักและอัตราทดของพวงมาลัย M Servotronic
เบรก (Brakes): ปรับการตอบสนองของระบบเบรก
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive: เลือกลักษณะการกระจายกำลัง
ระดับการทำงานของระบบสร้างพลังงานคืนจากเบรก (Brake Energy Regeneration): ปรับการชาร์จแบตเตอรี่จากการเบรก
ผู้ขับขี่สามารถบันทึกการตั้งค่าที่ชื่นชอบไว้เป็นพรีเซ็ตได้สองแบบ เพื่อเรียกใช้งานได้ทันทีผ่านปุ่ม M บนพวงมาลัย ซึ่งช่วยให้การสลับระหว่างโหมดการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการขับขี่แบบสปอร์ตเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
โหมดการขับขี่เพื่อทุกสถานการณ์: จากถนนสู่สนามแข่ง
BMW M5 ใหม่ มอบอิสระในการเลือกโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและทุกสถานการณ์:
โหมด ROAD: เป็นโหมดมาตรฐานที่เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวัน
โหมด SPORT: เมื่อเปลี่ยนจากโหมด ROAD เป็น SPORT ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่บางส่วนจะถูกจำกัดการทำงานเหลือเฉพาะที่จำเป็น เพื่อรีดเอาความสปอร์ตขั้นสุดออกมา รวมถึงการปรับรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอให้ดูเร้าใจยิ่งขึ้น
M Dynamic Mode (MDM): เปิดใช้งานได้โดยการกดปุ่ม DSC ซึ่งระบบ DSC จะช่วยควบคุมระบบเบรกและลดกำลังเครื่องยนต์ในระดับที่ผ่อนปรนมากขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่มีอิสระในการควบคุมที่มากขึ้น แต่ยังคงมีตาข่ายนิรภัยช่วยรองรับ
ปิดการทำงาน DSC โดยสมบูรณ์: สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมรถด้วยตัวเองอย่างเต็มที่บนสนามแข่ง โดยปราศจากการแทรกแซงใด ๆ จากระบบ
M Drive Professional: เปิดให้ผู้ขับขี่เลือกโหมด TRACK ซึ่งเป็นโหมดสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะ พร้อมใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมที่เน้นการขับขี่ที่ระดับสมรรถนะสูงสุดอย่าง M Laptimer สำหรับบันทึกเวลาต่อรอบ และ Boost Control ที่ช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อนให้สูงสุดในช่วงเวลาสั้น ๆ
ปุ่ม M Hybrid: การจัดการพลังงานอัจฉริยะ
ปุ่ม M Hybrid ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในรุ่นนี้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมดการทำงานของระบบไฮบริดได้อย่างชาญฉลาด:
โหมด HYBRID: ผสมผสานพละกำลังจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด เพื่อเสริมทั้งความประหยัดพลังงานและสมรรถนะให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่มากที่สุด
โหมด ELECTRIC: ใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักสำหรับการขับขี่ในระยะทางสั้น ๆ โดยเครื่องยนต์สันดาปจะทำงานก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่งจนสุด หรือใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความเงียบและปราศจากมลภาวะ
โหมด eCONTROL: เน้นการดึงพลังงานคืนจากระบบเบรก เพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่ให้คงที่สำหรับการใช้งานในภายหลัง หรือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาที่ต้องการกำลังไฟฟ้าสูงสุด
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย: ความมั่นใจในทุกเส้นทาง
BMW M5 ใหม่ ยกระดับความมั่นใจและความสะดวกสบายในการขับขี่ประจำวันขึ้นไปอีกขั้น ด้วย ระบบความปลอดภัยล้ำสมัย และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมระบบมาตรฐานที่ครบเครื่อง ได้แก่:
ระบบ Driving Assistance Professional:
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Front Collision Warning)
ระบบเตือนการออกนอกเลนที่สามารถพารถกลับเข้าเลนด้วยการช่วยบังคับพวงมาลัย (Lane Departure Warning with Steering Assist)
ระบบช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง (Evasive Steering Assist)
ระบบตรวจจับความตื่นตัวของผู้ขับขี่ (Driver Attentiveness Detection)
ระบบแสดงความเร็วจำกัด (Speed Limit Info)
ฟังก์ชัน Parking Assistant Professional และ Reversing Assistant: ช่วยให้ผู้ขับขี่จัดการกับทุกพื้นที่จอดรถได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการจอดในที่แคบหรือการถอยหลังเข้าซอง ก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจและแม่นยำ
ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด เพื่อมอบความปลอดภัยสูงสุดและความอุ่นใจในการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือการขับขี่ระยะไกล BMW M5 ใหม่ ก็พร้อมปกป้องคุณและผู้โดยสารอย่างเต็มที่
ราคาและแพ็คเกจ: การลงทุนที่คุ้มค่าในตำนานบทใหม่
BMW M5 ใหม่ 2025 ได้ประกาศราคาเริ่มต้นที่ 12,999,000 บาท ซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard เรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะการเบรกสูงสุด ยังมีรุ่นที่มาพร้อมเบรกเซรามิก ในราคา 13,699,000 บาท ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับ รถสปอร์ตซีดาน ที่ไม่เพียงแต่สืบทอดตำนาน 40 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีไฮบริด ที่ผสานความแรง ความหรูหรา และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไว้อย่างลงตัว
BMW M5 ใหม่ 2025 คือผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ BMW M ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เหนือกว่าทุกความคาดหมาย นี่คือรถยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่คือประสบการณ์ คือความรู้สึก คือการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ขับขี่ที่รักความเร็ว ความหรูหรา และนวัตกรรมที่ยั่งยืน พร้อมแล้วที่จะพาคุณไปสัมผัสกับอนาคตของการขับขี่สมรรถนะสูง.
	    	
		    
