Chery Tiggo 9 PHEV: นิยามใหม่แห่ง SUV เรือธง หรูหรา ล้ำสมัย และสมรรถนะเหนือระดับในยุค 2025
ในยุคที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังก้าวเข้าสู่มิติใหม่ Chery ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากจีน ได้ประกาศศักดาอย่างชัดเจนด้วยการเปิดตัว Chery Tiggo 9 PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ระดับเรือธงรุ่นล่าสุด ที่พร้อมจะสั่นสะเทือนตลาดพรีเมียม SUV ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหรา ดีไซน์อันโดดเด่น เทคโนโลยีสุดล้ำ และขุมพลังขับเคลื่อนที่เหนือความคาดหมาย บทความนี้จะพาทุกท่านเจาะลึกทุกมิติของ Chery Tiggo 9 PHEV ที่ไม่เพียงแค่เป็นยานยนต์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งวิวัฒนาการที่กำลังจะพลิกโฉมหน้าวงการรถยนต์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในแวดวงยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมเชื่อว่า Chery Tiggo 9 PHEV ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพียงเพื่อ “แข่ง” แต่เพื่อ “สร้างมาตรฐานใหม่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์กลุ่มพรีเมียมและกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือกที่มีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยช่วงปี 2025 นี้ มันคือผลลัพธ์ของการวิจัยและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ที่ Chery ทุ่มเทเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในปัจจุบัน ที่มองหารถยนต์ที่ผสานทั้งสมรรถนะอันทรงพลัง ความประหยัด และความสะดวกสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ดีไซน์ภายนอก: ศิลปะแห่งความสง่างามที่ดุดัน
เมื่อแรกเห็น Chery Tiggo 9 PHEV สิ่งที่สะกดทุกสายตาคือการออกแบบภายนอกที่ถ่ายทอดความรู้สึกพรีเมียมและทรงพลังได้อย่างไร้ที่ติ การผสานเส้นสายที่ทันสมัยเข้ากับความโอ่อ่าสไตล์รถยุโรป สะท้อนผ่านรายละเอียดที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน
ด้านหน้าของ Tiggo 9 PHEV โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ “Waterfall” หรือ “น้ำตก” ในรูปแบบหลายเหลี่ยมที่ใหญ่และโอ่อ่า ประดับด้วยโครเมียมที่เล่นกับแสงได้อย่างงดงาม มอบความรู้สึกหรูหราและแข็งแกร่งไปพร้อมกัน ชุดไฟหน้า LED ที่เพรียวบางและเฉียบคม ผสานเข้ากับช่องรับลมดีไซน์สปอร์ตด้านล่างอย่างลงตัว สร้างภาพลักษณ์ที่ดุดันและมีมิติ นอกจากนี้ การออกแบบสไตล์ “ดีไซน์กระจังหน้าขนาดใหญ่” ยังช่วยเพิ่มความน่าเกรงขามและส่งเสริมมิติของตัวรถให้ดูมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่พบเห็นได้ในรถ SUV ระดับพรีเมียมหลายรุ่นในปัจจุบัน การคำนึงถึง “ความสวยงาม” และ “อากาศพลศาสตร์” ไปพร้อมกัน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด
เมื่อมองจากด้านข้าง Tiggo 9 PHEV เผยให้เห็นเส้นสายที่ยาวและปราดเปรียว ด้วยหลังคาแบบ “ลอยตัว” (Floating Roof) ที่กำลังเป็นที่นิยมในรถหรูหลายแบรนด์ ทำให้ตัวรถดูมีความเคลื่อนไหวและทันสมัย มือจับประตูแบบซ่อน (Flush Door Handles) ที่จะปรากฏออกมาเมื่อปลดล็อกรถ ไม่เพียงแต่เพิ่มความโฉบเฉี่ยวและความล้ำสมัย แต่ยังช่วยในเรื่องของอากาศพลศาสตร์ ลดแรงต้านทานอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่และประหยัดพลังงานอีกด้วย ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยเสริมบุคลิกสปอร์ตและหรูหราให้กับตัวรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ส่วนท้ายของรถก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มาพร้อมชุดไฟท้ายแบบ LED ที่ลากยาวเต็มความกว้างของตัวรถ (Full-width LED Tail Lights) ซึ่งนอกจากจะให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังเป็น signature ที่สะท้อนความทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ของ Tiggo 9 PHEV ท่อไอเสียคู่ (Dual Exhaust) ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ไม่เพียงแต่บ่งบอกถึงขุมพลังใต้ฝากระโปรง แต่ยังช่วยเสริมลุคสปอร์ตและความแข็งแกร่งให้กับด้านท้ายได้อย่างลงตัว
ในด้านมิติตัวถัง Chery Tiggo 9 PHEV มีความยาวถึง 4,820 มม. และระยะฐานล้อ 2,820 มม. ซึ่งจัดว่าเป็น SUV ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล Chery และใหญ่กว่า Tiggo 8 อย่างเห็นได้ชัด ขนาดที่ใหญ่ขึ้นนี้ไม่เพียงแต่ให้ “พื้นที่ใช้สอยภายใน” ที่กว้างขวางและสะดวกสบาย แต่ยังมอบ “ความรู้สึกมั่นคง” และ “การขับขี่ที่นุ่มนวล” บนท้องถนนอีกด้วย สำหรับตลาดประเทศไทย Chery Tiggo 9 PHEV จะมาพร้อมเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เป็น “รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว” ที่ครบครันในทุกมิติ
ห้องโดยสาร: สุนทรียภาพแห่งความหรูหราที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ Chery Tiggo 9 PHEV คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งความหรูหราที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยได้อย่างลงตัว การออกแบบที่เน้นความประณีตพิถีพิถันทุกรายละเอียดสะท้อนถึงปรัชญาการสร้างสรรค์ที่ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน” เป็นหลัก
โทนสีภายในที่เลือกใช้เป็นสีน้ำตาล-ขาว ผสมผสานกับการตกแต่งด้วยลายไม้และงานเดินด้ายสีทองตามจุดต่างๆ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นแต่ยังคงความหรูหราสง่างาม วัสดุที่ใช้ล้วนเป็นวัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและพรีเมียม เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มอบความสบายสูงสุดแม้ในการเดินทางระยะไกล พร้อมฟังก์ชันปรับไฟฟ้าและระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า ซึ่งเป็น “มาตรฐานความสะดวกสบาย” ที่คาดหวังได้จากรถยนต์ในระดับนี้
หัวใจสำคัญของห้องโดยสารคือ “หน้าจอคู่ดีไซน์โค้งขนาดใหญ่” ที่ผสานแผงหน้าปัดดิจิทัลและหน้าจออินโฟเทนเมนต์เข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบเนียน มอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและทันสมัย หน้าจอนี้ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลระดับท็อปอย่าง Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งเป็นชิปที่นิยมใช้ในอุปกรณ์เทคโนโลยีชั้นสูง ทำให้การประมวลผลเป็นไปอย่างรวดเร็วและลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุก รองรับการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งเป็น “กุญแจสำคัญ” ในการเข้าถึงบริการดิจิทัลต่างๆ อาทิ ระบบนำทางแบบเรียลไทม์ การสตรีมมิงเพลงและวิดีโอคุณภาพสูง รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-The-Air (OTA) ที่จะช่วยให้ระบบของรถทันสมัยอยู่เสมอ
การออกแบบแผงควบคุมภายในเน้นความเรียบง่ายด้วย “จำนวนปุ่มควบคุมที่น้อยลง” โดยส่วนใหญ่จะรวมไว้บนหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบนพวงมาลัยและหัวเกียร์ ซึ่งเป็นแนวโน้มการออกแบบในรถยนต์ยุคใหม่ที่เน้นความมินิมอลและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ช่องแอร์ดีไซน์ทรงกลมจำนวนมากถึง 27 ช่อง ไม่เพียงแต่ดูสวยงามมีสไตล์ แต่ยังช่วยกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ไม่ว่าจะนั่งตำแหน่งใดในห้องโดยสารก็สัมผัสได้ถึงความเย็นสบาย
สำหรับระบบความบันเทิง Tiggo 9 PHEV จัดเต็มด้วย “ระบบเสียงรอบทิศทางจาก SONY” พร้อมลำโพง 14 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัด นุ่มลึก และสมจริง ราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ นอกจากนี้ “ไฟ Ambient Light” ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากถึง 255 สี ยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เข้ากับอารมณ์หรือสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเวลากลางคืนหรือการขับขี่ในเมืองยามค่ำคืน “เทคโนโลยีแสงสี” เหล่านี้ช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือกว่ารถยนต์ SUV ทั่วไป
ขุมพลัง PHEV: สมรรถนะอันทรงพลังที่มาพร้อมกับความประหยัด
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดคือขุมพลังขับเคลื่อนแบบ Plug-in Hybrid ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างพิถีพิถัน สำหรับตลาดประเทศไทย Chery จะนำเสนอเฉพาะรุ่นปลั๊กอินไฮบริดเท่านั้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายและการเติบโตของ “ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก” ในบ้านเรา
Tiggo 9 PHEV มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน Kunpeng Super Intelligent Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 19.43 kWh ระบบนี้มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 619 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 920 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่งในกลุ่มรถ SUV และสามารถเทียบเคียงได้กับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงหลายรุ่น ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึง “สมรรถนะที่เหนือกว่า” และ “อัตราเร่งที่ฉับไว” ในทุกช่วงความเร็ว
ด้วยขุมพลังมหาศาลนี้ ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 4.5 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับรถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ สะท้อนถึง “เทคโนโลยีขับเคลื่อนขั้นสูง” ที่ Chery ได้นำมาใช้ ไม่เพียงแต่เรื่องความเร็วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ในโหมดการขับขี่แบบไฮบริด รถคันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 1,200 กิโลเมตร (จากการทดสอบขับจริง ซึ่งเคลมไว้ที่ 1,300 กิโลเมตร) ต่อการเติมน้ำมันและชาร์จแบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้ง ทำให้เป็น “รถยนต์สำหรับการเดินทางระยะไกล” ที่ตอบโจทย์ความประหยัดและลดความกังวลเรื่องสถานีชาร์จ
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Intelligent All-Wheel Drive) ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Aisin 8 สปีด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและการควบคุมรถในทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนแห้ง ถนนเปียก หรือเส้นทางที่ท้าทาย ระบบนี้จะช่วยกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพสูงสุด นอกจากนี้ Tiggo 9 PHEV ยังรองรับ “การชาร์จเร็ว” (Fast Charging) โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 18 นาที ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมาก
ช่วงล่าง CDC: ความนุ่มนวลระดับพรมวิเศษที่มาพร้อมการยึดเกาะขั้นสุด
นอกจากขุมพลังที่ทรงพลังแล้ว Chery Tiggo 9 PHEV ยังโดดเด่นด้วยระบบช่วงล่างแบบ CDC (Continuous Damping Control) หรือ “ระบบควบคุมความหน่วงอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งเป็น “เทคโนโลยีช่วงล่างไฟฟ้า” ที่สามารถปรับความแข็ง-อ่อนของโช้คอัพได้แบบ Real-time โดยมีการประมวลผลและปรับแต่งมากถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ทำให้รถสามารถปรับสภาพช่วงล่างให้เหมาะสมกับสภาพถนนและรูปแบบการขับขี่ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
Chery ได้เคลมว่าระบบ CDC นี้สามารถเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ขึ้นถึง 74.8% เมื่อเทียบกับระบบช่วงล่างทั่วไป ลดอาการโคลงของตัวรถลงกว่า 50% และเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสาร รวมถึงการยึดเกาะถนนขึ้นกว่าเดิม 30% ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่สถิติ แต่สะท้อนถึง “ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ” ที่ Tiggo 9 PHEV มอบให้
จินตนาการถึงการขับขี่บนถนนที่ขรุขระ รถจะซับแรงกระแทกได้อย่างนุ่มนวลราวกับลอยอยู่บนพรมวิเศษ แต่เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว รถกลับให้ความรู้สึกหนึบแน่น มั่นคง ไม่โคลงเคลง ระบบ CDC จึงเป็น “หัวใจสำคัญ” ที่ทำให้ Tiggo 9 PHEV มีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ทั้งในด้านความสบายและความมั่นใจในการควบคุม นี่คือการลงทุนใน “เทคโนโลยีด้านวิศวกรรม” ที่ยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ SUV จากจีนให้ทัดเทียมกับแบรนด์หรูจากยุโรปได้อย่างแท้จริง
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (ADAS): ความอุ่นใจในทุกเส้นทาง
ในฐานะรถยนต์เรือธงแห่งยุค 2025 Chery Tiggo 9 PHEV มาพร้อมกับชุดระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ครบครัน เพื่อมอบความอุ่นใจและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดการเดินทาง
ระบบ ADAS เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและลดภาระของผู้ขับขี่ โดยประกอบไปด้วยเทคโนโลยีหลักๆ อาทิ:
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control – ACC): ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ และปรับความเร็วตามการจราจร
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist – LKA): ช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางช่องจราจร ลดความเสี่ยงในการออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring – BSM): แจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking – AEB): ตรวจจับวัตถุข้างหน้าและทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงของการชน
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360-degree Surround View Camera): ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน อำนวยความสะดวกในการจอดรถหรือขับขี่ในที่แคบ
ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Intelligent Parking Assist): ช่วยในการค้นหาพื้นที่จอดและควบคุมพวงมาลัยเพื่อจอดรถได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ ยังมีถุงลมนิรภัยรอบคัน โครงสร้างตัวถังนิรภัย และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Control – ESC) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็น “มาตรฐานใหม่ของความปลอดภัย” แต่ยังช่วยสร้าง “ความมั่นใจในการขับขี่” ให้กับทุกท่าน ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล
บทบาทของ Chery Tiggo 9 PHEV ในตลาดไทยปี 2025 และอนาคตที่กำลังจะมาถึง
Chery Tiggo 9 PHEV คือการประกาศศักดาครั้งสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า “แบรนด์รถยนต์จากจีน” ในปัจจุบัน ไม่ได้มีดีแค่เรื่องราคาอีกต่อไป แต่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ สมรรถนะอันเป็นเลิศ และความพรีเมียมที่พร้อมจะแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ในตลาดประเทศไทยช่วงปลายปี 2025 ถึงต้นปี 2026 ที่กำลังจะมาถึง Chery Tiggo 9 PHEV จะเข้ามาเสริมทัพ Tiggo 8 และเป็นตัวเลือกที่น่าจับตาในกลุ่มรถยนต์ SUV ขนาดใหญ่และรถยนต์ Plug-in Hybrid ที่มีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยแพ็คเกจที่ครบครันทั้งดีไซน์อันหรูหรา ห้องโดยสารที่กว้างขวางและอัจฉริยะ ขุมพลัง PHEV ที่ทรงพลังและประหยัด รวมถึงระบบช่วงล่างและระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น Tiggo 9 PHEV มีศักยภาพที่จะเข้ามาเป็น “ผู้เล่นสำคัญ” ที่จะเข้ามาท้าชนกับเจ้าตลาดเดิมได้อย่างเต็มตัว
Chery กำลังตอกย้ำภาพลักษณ์ของตนเองในฐานะ “ผู้นำด้านนวัตกรรม” และเป็น “แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ” ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้เพียงตอบสนองความต้องการพื้นฐาน แต่ยังก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ขับขี่ การมาถึงของ Chery Tiggo 9 PHEV จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ SUV ในภาพรวม และเป็นข้อพิสูจน์ว่าอนาคตของยานยนต์ที่ผสานเทคโนโลยี ประสิทธิภาพ และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ได้มาถึงแล้วในประเทศไทย
เตรียมพบกับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่ากับ Chery Tiggo 9 PHEV รถยนต์ที่พร้อมจะพาคุณไปสัมผัสกับนิยามใหม่ของคำว่า “เรือธง” บนท้องถนนประเทศไทยอย่างแน่นอน

