บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS 2025: ยนตรกรรมแห่งสมรรถนะสูงสุดบนท้องถนนและสนามแข่ง
ปี 2025 ได้ถือกำเนิดตำนานบทใหม่ในไลน์อัพอันทรงเกียรติของ BMW M กับการเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ที่พร้อมนิยามคำว่า “สมรรถนะเหนือระดับ” อีกครั้งในโลกยานยนต์ นี่คือรถยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่เป็นผลงานศิลปะทางวิศวกรรมที่หลอมรวมจิตวิญญาณของสนามแข่งเข้ากับความสง่างามและความใช้งานได้จริงของรถยนต์ซาลูน 4 ที่นั่งได้อย่างไร้ที่ติ M4 CS 2025 วางตำแหน่งตัวเองอยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น M4 Competition Coupe ที่เปี่ยมด้วยพลัง และ M4 CSL ที่เน้นความสุดขีดในสนามแข่ง เสมือนสะพานเชื่อมที่มอบสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองโลก โดยมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและเข้าถึงแก่นแท้ของปรัชญา “Club Sport” ที่ BMW M ยึดถือมาโดยตลอด
การมาถึงของ M4 CS ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกใหม่ แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงให้ไปอีกขั้น ด้วยการปรับจูนที่พิถีพิถันในทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ขุมพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ไปจนถึงแชสซีส์และระบบอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อการตอบสนองที่ฉับไวและแม่นยำสูงสุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS คือบทสรุปของความหลงใหลในความเร็วและประสิทธิภาพที่ BMW M ต้องการส่งมอบให้กับผู้ขับขี่ที่มองหาความเป็นเลิศอย่างแท้จริง
ราคาและสีสันแห่งเอกสิทธิ์
สำหรับผู้ที่พร้อมครอบครองยนตรกรรมระดับตำนานคันนี้ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS 2025 มาพร้อมราคาจำหน่ายที่ 14,999,000 บาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard) ซึ่งสะท้อนถึงมูลค่าของนวัตกรรมยานยนต์ ความประณีต และสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ยากในตลาด
M4 CS ยังนำเสนอสีสันตัวถังสุดพิเศษที่บ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างแท้จริง ได้แก่:
สีน้ำเงิน Riviera Blue: สีที่สะท้อนถึงความเร็วและความทันสมัย ให้ความรู้สึกสปอร์ตแบบคลาสสิก
สีเขียว Frozen Isle of Man Green Metallic: สีพิเศษที่มีให้เลือกเฉพาะในรุ่น M4 CS นี้เท่านั้น ให้ความรู้สึกดุดัน ลึกลับ และบ่งบอกถึงความพิเศษอย่างแท้จริง ซึ่งสีเขียวนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของรถยนต์ M รุ่นพิเศษไปแล้ว
สีเทา M Brooklyn Grey Metallic: สีที่สื่อถึงความแข็งแกร่ง ความเรียบหรู และความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว
สีดำ Sapphire Black Metallic: สีดำสนิทที่ขับเน้นเส้นสายของรถให้ดูเฉียบคม สง่างาม และลึกลับในเวลาเดียวกัน
การเลือกใช้วัสดุและโทนสีเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เสริมสร้างความโดดเด่นให้กับภายนอก แต่ยังเป็นการเน้นย้ำถึงปรัชญาการออกแบบของ BMW M ที่ผสานความสวยงามเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว เพื่อให้ M4 CS ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์สมรรถนะสูง แต่เป็นงานศิลปะเคลื่อนที่ที่ดึงดูดทุกสายตา
ขุมพลัง M TwinPower Turbo: หัวใจที่คำรามอย่างนักล่า
ภายใต้ฝากระโปรงของ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS 2025 คือขุมพลังที่ได้รับการยกเครื่องและปรับจูนใหม่ให้เหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่พัฒนาขึ้นสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู M3 และ M4 โดยเฉพาะ และยังเป็นเครื่องยนต์ที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนารถแข่งตระกูล M4 GT3 ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก นี่คือข้อพิสูจน์ถึงดีเอ็นเอของรถแข่งที่ไหลเวียนอยู่ในทุกอณูของ M4 CS
เครื่องยนต์ตัวนี้ให้พละกำลังสูงสุดถึง 405 กิโลวัตต์ หรือ 551 แรงม้า ซึ่งสูงกว่าในรุ่น M4 Competition Coupe ถึง 15 กิโลวัตต์ หรือ 20 แรงม้าอย่างเห็นได้ชัด การเพิ่มพลังนี้มาจากการปรับจูนระบบ M TwinPower Turbo อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อรีดเค้นประสิทธิภาพสูงสุดออกมาโดยไม่กระทบต่อความน่าเชื่อถือ ขณะที่แรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 650 นิวตันเมตร สามารถส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องในรอบเครื่องที่กว้างตั้งแต่ 2,750 ไปจนถึง 5,950 รอบต่อนาที มอบการตอบสนองที่ฉับไวและแรงดึงมหาศาลในทุกย่านความเร็ว
ด้วยพละกำลังและแรงบิดที่เหนือชั้น บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS จึงมีอัตราเร่งที่น่าทึ่งในระดับหัวแถวของรถยนต์สมรรถนะสูง สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และใช้เวลาเพียง 11.1 วินาที เพื่อทะยานจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีความเร็วสูงสุดที่จำกัดอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 302 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการพุ่งทะยานที่ไร้ขีดจำกัด นี่คือประสิทธิภาพที่ถูกออกแบบมาเพื่อท้าทายขีดจำกัดและมอบประสบการณ์ขับขี่เร้าใจในทุกสถานการณ์
ระบบส่งกำลังก็เป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายทอดพลังงานนี้สู่พื้นผิวถนนได้อย่างสมบูรณ์แบบ M4 CS ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการทำงานของเกียร์ให้เข้ากับสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวันที่นุ่มนวล การขับขี่แบบสปอร์ตที่เน้นความกระฉับกระเฉง หรือการเข้าสู่โหมดสนามแข่งที่ต้องการการตอบสนองที่ฉับไวและแม่นยำที่สุด นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ M xDrive ยังทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้ตัวรถมีเสถียรภาพการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องแคล่ว แม่นยำ และมั่นใจในทุกโค้งและทุกสภาพพื้นผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
แชสซีส์และระบบช่วงล่าง: ผสานความแข็งแกร่งและความแม่นยำ
หัวใจสำคัญที่ทำให้ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS 2025 สามารถถ่ายทอดพละกำลังมหาศาลลงสู่พื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการออกแบบแชสซีส์และระบบช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนามาอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด แนวคิดคือการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สามารถเป็นได้ทั้งรถยนต์นั่งสำหรับชีวิตประจำวัน และรถแข่งที่พร้อมลงสนามได้ทันที การกระจายน้ำหนักของตัวรถจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการใช้คานค้ำยันช่วงล่างด้านหน้าที่พัฒนามาให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ยังคงความแข็งแกร่งสูงสุด ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงบิดและแรงเหวี่ยงของตัวถัง ส่งผลให้ตัวรถเข้าโค้งได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ระบบกันสะเทือนในช่วงล่าง Adaptive M ซึ่งควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับการปรับแต่งมาสำหรับ M4 CS โดยเฉพาะ เพื่อให้การตอบสนองต่อสภาพถนนและรูปแบบการขับขี่เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด สามารถปรับการทำงานของโช้คอัพได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้น ในขณะเดียวกันก็ยังคงความสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน พวงมาลัยไฟฟ้า M Servotronic พร้อมอัตราทดแปรผัน มอบการควบคุมที่คมชัดและแม่นยำในทุกช่วงความเร็ว ตอบสนองต่อการสั่งการของผู้ขับขี่ได้อย่างใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
ส่วนระบบเบรกนั้น M4 CS มาพร้อมกับเบรก M Carbon Ceramic เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถ่ายทอดจากรถแข่งโดยตรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถได้อย่างยอดเยี่ยม ทนทานต่อการเฟด (Fade) แม้ในการใช้งานหนักในสนามแข่ง และยังช่วยลดน้ำหนักใต้สปริง ส่งผลให้การควบคุมรถคล่องตัวยิ่งขึ้น เบรกคาร์บอนเซรามิกเหล่านี้ทำงานร่วมกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาในดีไซน์ Star-spoke ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังช่วยลดน้ำหนักที่ไม่ได้เป็นส่วนสปริงของรถ และมาพร้อมกับยางสมรรถนะสูงสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะ ซึ่งพร้อมพาคุณทะยานไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจสูงสุด
นอกจากนี้ โหมด M Dynamic ยังเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันสำคัญที่ช่วยปลดล็อกสมรรถนะสูงสุดของ M4 CS ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดนี้เพื่อลดระดับการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) ลง ช่วยให้ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์สามารถสัมผัสถึงขีดจำกัดของรถได้มากขึ้น และสนุกกับการควบคุมรถในรูปแบบที่ท้าทายยิ่งขึ้น เสมือนการขับขี่รถแข่งในสนามจริง
งานออกแบบภายนอก: เส้นสายแห่งความดุดันและฟังก์ชันการใช้งาน
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS 2025 โดดเด่นด้วยงานออกแบบภายนอกที่ไม่ได้มีเพียงความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงฟังก์ชันการใช้งานที่มุ่งเน้นการลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพเชิงอากาศพลศาสตร์อย่างแท้จริง แนวคิดหลักคือการเลือกใช้วัสดุและวิศวกรรมที่เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้รถมีน้ำหนักลดลงและศูนย์ถ่วงต่ำลง ส่งผลให้มีความคล่องตัวและเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือกว่า
วัสดุ CFRP (Carbon Fibre Reinforced Plastic) หรือคาร์บอนไฟเบอร์ ถูกนำมาใช้ในหลายจุดของตัวถัง ไม่ว่าจะเป็นหลังคา กระโปรงหน้า สปลิตเตอร์และช่องลมด้านหน้า ฝาครอบกระจกมองข้าง ดิฟฟิวเซอร์ และสปอยเลอร์ท้ายรถ การใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เหล่านี้ช่วยลดน้ำหนักรวมของรถได้ราว 15 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่น M4 Competition Coupe M xDrive และยังช่วยให้ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของ M4 CS ลดระดับลงใกล้พื้นถนนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความคล่องตัวและเสถียรภาพในการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง
ดีไซน์ภายนอกยังถูกแต่งแต้มด้วยรายละเอียดที่บ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์ M Performance อย่างชัดเจน ด้วยการแต่งแบบตัดสีด้วยผิวหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ในบางจุด กระจังหน้ามาในรูปแบบน้ำหนักเบาและไร้กรอบ ตกแต่งด้วยเส้นกรอบสีแดงที่ดูดุดัน และตราชื่อรุ่น “M4 CS” ที่โดดเด่นในสไตล์ที่คล้ายคลึงกับรถแข่ง ขนาบข้างด้วยไฟหน้าที่มีไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) ในโทนสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง GT ของ BMW เสริมสร้างภาพลักษณ์ของความเร็วและความเป็นนักแข่ง
ด้านท้ายรถ M4 CS ยังคงสร้างความประทับใจด้วยไฟท้ายที่ยกเทคโนโลยี BMW Laserlight ซึ่งเคยเปิดตัวไปในรุ่น M4 CSL มาสร้างเอกลักษณ์ด้วยเอฟเฟกต์ไฟท้ายแบบสามมิติที่ซับซ้อนและโดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ก็พร้อมดึงดูดสายตาทุกคู่บนท้องถนน และประกาศศักดาถึงประสิทธิภาพที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความงามอันเป็นเอกลักษณ์
ภายในห้องโดยสาร: สมรรถนะที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงการออกแบบที่มุ่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ขับขี่ในทุกภารกิจ ตั้งแต่การเดินทางในชีวิตประจำวันไปจนถึงการโลดแล่นในสนามแข่ง ทุกองค์ประกอบถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อความสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงามแบบสปอร์ตที่หรูหรา
พวงมาลัย M Alcantara แบบสามก้านตัดขอบล่าง หุ้มด้วยวัสดุ Alcantara เพื่อการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในทุกสถานการณ์ ไม่เพียงแต่จับถนัดมือ แต่ยังแต่งแต้มด้วยองค์ประกอบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง เช่น เครื่องหมายสีแดงแทนจุดกึ่งกลางของพวงมาลัย และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่ทำจากวัสดุ CFRP ซึ่งให้สัมผัสที่เย็นและน้ำหนักเบา เบาะนั่งแบบ M Carbon bucket seat ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ M ระดับสูง หุ้มด้วยหนัง Merino สีดำคุณภาพเยี่ยม ตัดกับตะเข็บสีแดงที่ปราณีต มอบการรองรับร่างกายที่ยอดเยี่ยมในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แต่ยังคงความสบายสำหรับการเดินทางไกล
บรรยากาศภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำ-แดงที่เข้ากันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ “CS” สีแดงที่คอนโซลกลาง ป้ายอักษร “M4 CS” ที่ขอบประตูรถ เข็มขัดนิรภัยแบบ M ที่แต่งแถบสีประจำตัวของบีเอ็มดับเบิลยู M และเพดานสีดำ Anthracite พร้อมแต่งพื้นผิวภายในด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายจุด เช่น บริเวณคอนโซลกลาง แป้นเปลี่ยนเกียร์ และองค์ประกอบตกแต่งอื่น ๆ ทั้งหมดนี้ผสมผสานกันเป็นบรรยากาศของความสปอร์ตที่แท้จริงและสัมผัสได้ถึงความพรีเมียม
เทคโนโลยีภายในก็ได้รับการอัปเกรดเพื่อรองรับการใช้งานที่ทันสมัยที่สุด M4 CS มาพร้อมกับหน้าจอควบคุมที่ใช้ระบบ BMW iDrive รุ่นล่าสุด พร้อมฟังก์ชันการสั่งงานจากระบบปฏิบัติการ BMW Operation System 8.5 ทำให้การใช้งานฟังก์ชันและบริการดิจิทัลต่าง ๆ ทั้งสะดวกและรวดเร็วสำหรับผู้ขับขี่ หน้าจอโค้ง BMW Curved Display ที่ประกอบด้วยจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วบริเวณหลังพวงมาลัย และจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของรถในสไตล์เดียวกับรถยนต์ตระกูล M รุ่นอื่น ๆ และยังจัดวางหน้าจอให้หันมาทางผู้ขับขี่เล็กน้อย จึงสามารถอ่านจอได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนข้างหน้า นอกจากนี้ ไฟ M Shift Lights ที่ช่วยให้สัญญาณเปลี่ยนเกียร์ยังติดตั้งอยู่ด้านบนจอ Information Display ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและทันเวลา
ปุ่มควบคุมที่บริเวณคอนโซลหน้าก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่สไตล์ M โดยเฉพาะ โดยมีปุ่มสำหรับเข้าตั้งค่าเครื่องยนต์ แชสซี พวงมาลัย เบรก และระบบ M xDrive อย่างครบครัน ผู้ขับขี่สามารถเซฟการตั้งค่าที่ชื่นชอบเป็นพรีเซ็ตได้ 2 ชุด เพื่อเรียกใช้ได้ทันทีจากปุ่ม M สองปุ่มบนพวงมาลัย ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกของรถได้อย่างรวดเร็ว
ระบบ M Drive Professional ยังเพิ่มฟังก์ชันเฉพาะทางสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งโดยตรง เช่น M Drift Analyser ที่บันทึก วิเคราะห์ และให้คะแนนการดริฟต์เข้าโค้งในแต่ละครั้ง M Laptimer ฟังก์ชันจับเวลารอบสนามเพื่อแชร์กับเพื่อน ๆ นักขับ และ M Traction Control ที่เลือกระดับการทำงานได้ถึง 10 ระดับ มอบอิสระในการควบคุมที่หลากหลายให้กับผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ปุ่ม M Mode ที่คอนโซลกลาง ยังเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่มาพร้อมกับระบบ M Drive Professional โดยผู้ขับสามารถใช้ปุ่มนี้ตั้งค่าระบบช่วยเหลือการขับขี่และเลือกข้อมูลที่จะแสดงผลที่หน้าจอ Information Display และ Head-Up Display ได้ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ไม่ได้รองรับเพียงโหมดมาตรฐานอย่าง ROAD และ SPORT เท่านั้น แต่ยังมีโหมด TRACK ติดตั้งมาให้สำหรับการขับขี่ในสนามแข่งอีกด้วย ทำให้ M4 CS เป็นยนตรกรรมที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์
บทสรุป: นิยามใหม่แห่งสมรรถนะสูงสุด
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS 2025 ไม่ใช่แค่การเพิ่มทางเลือกในกลุ่มรถยนต์ M แต่เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ BMW M ในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ไร้ขีดจำกัด นี่คือรถยนต์ที่รวมเอาความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมยานยนต์ การออกแบบที่โดดเด่น และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ตั้งแต่ขุมพลังเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo ที่เร้าใจ ไปจนถึงแชสซีส์ที่แข็งแกร่งและห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่อย่างแท้จริง
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักขับที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในสนามแข่ง หรือผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์หรูสมรรถนะสูงที่สามารถขับขี่ได้ทุกวัน บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่เร้าใจและเหนือระดับที่คุณจะไม่มีวันลืม ด้วยสถานะของรถยนต์ M ระดับ CS ที่เป็นตำนานแห่งการประนีประนอมที่ลงตัวระหว่าง M Competition และ M CSL นี่คือยนตรกรรมที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็นคู่หูที่พร้อมพาคุณไปค้นพบขีดจำกัดใหม่ๆ ของการขับขี่ และสร้างประวัติศาสตร์บนท้องถนนและในสนามแข่งไปพร้อมกัน

