BMW M5 ใหม่ ปี 2025: ตำนาน 40 ปีแห่งสมรรถนะที่ถูกนิยามใหม่ในยุคไฮบริด
บทนำ: 40 ปีแห่งตำนาน สู่มิติใหม่ของสมรรถนะที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตลอดระยะเวลา 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ชื่อของ BMW M5 ได้สถิตอยู่ในใจของบรรดาผู้หลงใหลในความเร็วและวิศวกรรมยานยนต์ที่ไร้ที่ติ ในฐานะสุดยอดรถยนต์ซีดานสมรรถนะสูงที่ผสานความหรูหราเข้ากับพละกำลังดุจรถแข่งได้อย่างลงตัว วันนี้ ในปี 2025 ตำนานบทใหม่กำลังจะถูกจารึกขึ้นอีกครั้ง กับการมาถึงของ BMW M5 เจเนอเรชันที่ 7 ที่ไม่เพียงสืบทอดมรดกแห่งความแรง แต่ยังนำพา M5 ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยนวัตกรรมระบบส่งกำลังแบบไฮบริดเป็นครั้งแรก นี่ไม่ใช่แค่การปรับปรุง แต่เป็นการปฏิวัติที่ยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่ง “M” ไว้อย่างครบถ้วน มอบประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจและชาญฉลาดกว่าที่เคยมีมา
BMW M5 ใหม่ คันนี้คือผลลัพธ์ของการหลอมรวมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือภาพสะท้อนของวิวัฒนาการที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต ได้บุกเบิกมาตลอด 40 ปี การเปิดตัวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นการยืนยันสถานะของ BMW M5 ในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานของรถยนต์สปอร์ตซีดานสมรรถนะสูง ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการแสวงหาความสมบูรณ์แบบ นี่คือโอกาสที่ผู้หลงใหลในยนตรกรรมระดับพรีเมียมจะได้สัมผัสกับนิยามใหม่ของ “ที่สุดแห่งการขับขี่” พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากแพ็คเกจ BSI Standard ที่ครอบคลุมทั้งบริการและดูแลรักษารถยนต์
หัวใจที่เต้นรัว: ขุมพลัง M HYBRID – แรงดุดัน ผสานความชาญฉลาด
ภายใต้รูปลักษณ์ที่สง่างามแต่แฝงไปด้วยความดุดันของ BMW M5 ใหม่ ปี 2025 ซ่อนไว้ซึ่งหัวใจที่ปฏิวัติวงการ นั่นคือระบบส่งกำลัง M HYBRID ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ M5 โดยเฉพาะ มันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อปลดปล่อยพละกำลังสูงสุดที่น่าทึ่งและประสิทธิภาพที่เหนือความคาดหมาย
แก่นกลางของระบบนี้คือเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.4 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นขุมพลังที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในสนามแข่งและบนท้องถนนมายาวนาน เครื่องยนต์ V8 นี้สามารถส่งกำลังได้สูงสุดถึง 430 กิโลวัตต์ หรือ 585 แรงม้า ด้วยแรงบิดที่มหาศาลตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ทำให้ M5 มีอัตราเร่งที่รวดเร็วและต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็ว เทคโนโลยี M TwinPower Turbo ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทอร์โบชาร์จเจอร์สองตัว แต่เป็นการออกแบบระบบไอดีและไอเสียอย่างชาญฉลาด เพื่อลดอาการ Lag และมอบการตอบสนองที่ฉับไวในทุกการกดคันเร่ง
แต่ความพิเศษที่แท้จริงอยู่ตรงที่การทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดถึง 145 กิโลวัตต์ หรือ 197 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมพละกำลังในทันทีที่ต้องการ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนรถในโหมดไฟฟ้าล้วน มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานประสานกับเครื่องยนต์ V8 อย่างชาญฉลาด ผ่านการควบคุมของเกียร์ M Steptronic 8 จังหวะ ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อส่งผ่านกำลังได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลง คุณจะสัมผัสได้ถึงความแม่นยำและการตอบสนองที่ไร้ที่ติ
ผลลัพธ์ที่ได้คือพละกำลังรวมที่มหาศาลถึง 535 กิโลวัตต์ หรือ 727 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 1,000 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษ แต่คือประสบการณ์ที่แท้จริงของการเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.5 วินาที ซึ่งเป็นอัตราเร่งที่สามารถท้าทายรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์หลายๆ รุ่นได้สบายๆ และความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อติดตั้ง M Driver’s Package (ซึ่งสามารถปลดล็อกความเร็วสูงสุดได้ที่ศูนย์บริการบีเอ็มดับเบิลยู หลังจากการขับขี่ไม่ต่ำกว่า 2,000 กิโลเมตร) สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของรถยนต์สมรรถนะสูงคันนี้
เทคโนโลยี M HYBRID ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องของกำลัง แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพและความประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในยุคปัจจุบัน ระบบนี้ยังได้นำเทคโนโลยีสุดล้ำจากรถแข่งแบบ Endurance ของบีเอ็มดับเบิลยูมาปรับใช้ เพื่อให้ M5 ตอบสนองต่อทุกสัมผัสคันเร่งได้ในพริบตา ลดการสูญเสียพลังงาน และสามารถสร้างพลังงานคืนจากการเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนประกอบสำคัญอีกอย่างที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ M คือระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ผ่านการปรับแต่งมาอย่างประณีต เพื่อมอบเสียงเครื่องยนต์ V8 ที่ทรงพลังและดุดัน ไม่ใช่แค่เสียงที่ได้ยินจากภายนอก แต่เป็นเสียงที่สื่อถึงพลังงานที่ซ่อนอยู่ภายใน เสียงคำรามที่บ่งบอกถึงสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของ M5 และยังคงความโดดเด่นด้วยปลายท่อไอเสียในสี Black Chrome ขนาด 100 มิลลิเมตร ที่สะดุดตาและเสริมความสปอร์ตได้อย่างลงตัว
ในโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วน BMW M5 ใหม่ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ โดยปราศจากการปล่อยมลพิษ และที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้นคือ แม้จะขับขี่ด้วยไฟฟ้า M5 ก็ยังคงมอบประสบการณ์ทางเสียงที่น่าหลงใหลผ่านระบบ BMW IconicSounds Electric ที่สร้างสรรค์เสียงสังเคราะห์ เพื่อตอบสนองต่อทุกการควบคุมเสมือนหนึ่งว่าคุณกำลังขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สันดาป นี่คือการผสานที่ลงตัวระหว่างความล้ำสมัยและอารมณ์สปอร์ตที่ BMW M มอบให้
พลังในการควบคุม: แชสซีและระบบขับเคลื่อนที่ปลดปล่อยศักยภาพสูงสุด
พละกำลังมหาศาลของ BMW M5 ใหม่ จะไร้ความหมายหากปราศจากระบบควบคุมและช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม บีเอ็มดับเบิลยูจึงได้พัฒนาเทคโนโลยีแชสซีขั้นสูงที่ปรับแต่งมาให้เข้ากับสมรรถนะของตัวรถโดยเฉพาะ เพื่อให้ M5 เป็นรถยนต์ที่เร็ว แรง และนิ่งกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์นี้อย่างชัดเจน และยกระดับสมรรถนะในแบบ M สู่มิติใหม่
พละกำลังจากระบบ M HYBRID ถูกส่งลงสู่พื้นถนนผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ โดยเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหลัง เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่สปอร์ตและเร้าใจตามแบบฉบับของ BMW M โดยทั่วไปแล้ว ระบบ M xDrive จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพและการยึดเกาะถนนในทุกสภาพการณ์ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายสูงสุด ผู้ขับขี่ยังสามารถเปิดใช้งานโหมด 2WD เพื่อส่งกำลังไปยังล้อหลังเท่านั้น พร้อมปิดระบบ DSC (Dynamic Stability Control) เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ฉับไวและเร้าใจที่สุด นี่คือโหมดที่สงวนไว้สำหรับนักขับผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการปลดปล่อยศักยภาพของ M5 ออกมาอย่างเต็มที่ในสนามแข่ง
นอกจากนี้ พวงมาลัยแบบ M Servotronic ยังมอบการตอบสนองที่แม่นยำและน้ำหนักพวงมาลัยที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความเร็วและโหมดการขับขี่ ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงโดยตรงกับพื้นผิวถนน พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบสี่ล้อ Integral Active Steering ที่เพิ่มความคล่องตัวในการเลี้ยวที่ความเร็วต่ำ และเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง M5
ช่วงล่าง Adaptive M ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับสมรรถนะระดับ M ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดลักษณะการขับขี่ของ BMW M5 ใหม่ ได้ในทุกมิติ คุณสามารถเลือกได้ระหว่างการเสริมความสะดวกสบายในการขับขี่ประจำวัน หรือปรับให้ช่วงล่างแข็งขึ้นเพื่อสมรรถนะสูงสุดในสนามแข่ง ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองความต้องการในแต่ละทริปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะต้องการความนุ่มนวลในการเดินทางไกล หรือความมั่นคงในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง BMW M5 พร้อมตอบสนองในทุกสถานการณ์
สุนทรียภาพแห่งการออกแบบ: ภายนอกที่บ่งบอกถึงพลังภายใน
BMW M5 ใหม่ ปี 2025 ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยสมรรถนะ แต่ยังมาพร้อมงานออกแบบที่เปี่ยมด้วยความสง่างามในสไตล์สปอร์ตตัวแรง ซึ่งสื่อถึงพละกำลังและศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในได้อย่างชัดเจน ทุกเส้นสายถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความดุดันแบบรถแข่งและความหรูหราแบบซีดานระดับพรีเมียม
ด้านหน้าของรถโดดเด่นด้วยกันชนหน้าที่มีเส้นสายบึกบึน ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์และระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่คมเข้ม ผสานกับกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW แต่ได้รับการปรับแต่งให้ดูสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น สะท้อนถึง DNA ของ M Power ได้อย่างชัดเจน
มุมมองด้านข้างเผยให้เห็นซุ้มล้อที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเด่นชัด พร้อมสเกิร์ตข้างที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์และเสริมความดุดันให้กับตัวรถ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ M ดีไซน์ Double spoke สีดำ ที่มีขนาด 20 นิ้วสำหรับคู่หน้า และ 21 นิ้วสำหรับคู่หลัง ไม่เพียงแต่เสริมความงามสง่า แต่ยังช่วยลดน้ำหนักใต้สปริงและเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน การเลือกใช้ขนาดล้อที่แตกต่างกันระหว่างคู่หน้าและคู่หลังยังเป็นไปตามหลักวิศวกรรมที่เน้นการขับขี่แบบ Performance-oriented โลโก้ “M5” ที่ประทับนูนอยู่บนส่วน Hofmeister kink ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ยังเป็นเครื่องหมายยืนยันถึงสถานะพิเศษของรถยนต์คันนี้
ด้านท้ายของรถยังคงความแข็งแกร่งและสปอร์ต ด้วยกันชนท้ายที่ออกแบบมาใหม่ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ที่ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ ปลายท่อไอเสีย Black Chrome คู่ขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่งตอกย้ำถึงสมรรถนะที่ไม่ธรรมดาของ M5 ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยวช่วยให้รถดูทันสมัยและโดดเด่น ไม่ว่าจะมองจากมุมใด BMW M5 ใหม่ ก็แสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในทุกมิติ
ความหรูหราเหนือระดับ: ห้องโดยสารที่สร้างสรรค์เพื่อผู้ขับขี่
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ BMW M5 ใหม่ ปี 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผสมผสานความหรูหรา ความทันสมัย และจิตวิญญาณแห่ง M เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทุกองค์ประกอบถูกคัดสรรมาสำหรับรถยนต์ตระกูล M โดยเฉพาะ เพื่อเน้นย้ำถึงบุคลิกหลากมิติที่ผสมผสานความหรูหราและแรงเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
พวงมาลัยหนัง M ดีไซน์ใหม่ในรูปทรงตัดขอบล่าง พร้อมปุ่ม M แบบมีไฟส่องสว่าง ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและกระชับมือ แต่ยังเป็นศูนย์รวมของการควบคุมที่สำคัญ เบาะนั่ง M multifunction ที่หุ้มด้วยหนัง Merino มาเป็นมาตรฐาน มอบความสะดวกสบายสูงสุดและรองรับสรีระได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะในการขับขี่ระยะไกลหรือการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เบาะนั่งนี้ยังสามารถปรับตำแหน่งต่างๆ ได้หลากหลาย เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจ
จุดศูนย์กลางของห้องโดยสารคือจอแสดงผลโค้ง BMW Curved Display ขนาดใหญ่ ที่รองรับการแสดงข้อมูลเฉพาะสำหรับรถยนต์ตระกูล M ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ มาตรวัดกำลังไฟฟ้า หรือข้อมูลการขับขี่แบบ M-specific ที่จำเป็นสำหรับการขับขี่สมรรถนะสูง ระบบควบคุม BMW iDrive เวอร์ชันอัปเกรดล่าสุด เปิดให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถโต้ตอบกับระบบต่างๆ ของรถได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสผ่านหน้าจอ การใช้ปุ่มควบคุม iDrive Controller หรือแม้แต่การสั่งงานด้วยเสียงที่ชาญฉลาด ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบาย
บรรยากาศภายในห้องโดยสารยังโอ่อ่าและหรูหราด้วยระบบควบคุม BMW Interaction Bar ซึ่งเป็นแผงควบคุมแบบสัมผัสที่ผสานเข้ากับดีไซน์ภายในได้อย่างลงตัว ระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน ช่วยให้ผู้โดยสารแต่ละคนสามารถตั้งอุณหภูมิที่ต้องการได้ ชุดไฟห้องโดยสารที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับรถยนต์ตระกูล M สร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์และหรูหราในยามค่ำคืน
ด้านความสะดวกสบายและความบันเทิง BMW M5 ใหม่ ยังมาพร้อมระบบเสียง Bowers & Wilkins Surround Sound ระดับไฮเอนด์ ที่มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและสมจริงราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ แท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน ระบบ Comfort Access ที่ช่วยให้การเข้า-ออกรถเป็นไปอย่างง่ายดาย และระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ ล้วนเป็นฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของผู้ใช้งาน
การควบคุมที่ไร้ขีดจำกัด: M-Specific Controls และ Driving Modes
ปรัชญาของ BMW M คือการมอบการควบคุมที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้ขับขี่ และ BMW M5 ใหม่ ก็ได้ยกระดับปรัชญานี้ขึ้นไปอีกขั้น แผงควบคุมบนคอนโซลกลางของ M5 ประกอบด้วยปุ่มควบคุมฟังก์ชันเฉพาะรุ่นมากมายที่พร้อมให้ผู้ขับขี่ใช้ปรับแต่งการทำงานของตัวรถในหลากหลายด้านได้อย่างอิสระและแม่นยำ
คุณสามารถเลือกโหมดการทำงานของเครื่องยนต์ (Engine mode), ระบบ Drivelogic สำหรับเกียร์, การตั้งค่าช่วงล่าง (Suspension), พวงมาลัย (Steering), ระบบเบรก (Brakes) หรือแม้แต่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับการทำงานของระบบสร้างพลังงานคืนจากเบรก (Brake Energy Regeneration) เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่และความต้องการในการประหยัดพลังงาน
ความยอดเยี่ยมอยู่ที่การสามารถบันทึกการตั้งค่าเหล่านี้เป็นพรีเซ็ตได้สองแบบ (M1 และ M2) เพื่อเรียกใช้งานได้ทันทีผ่านปุ่ม M บนพวงมาลัย ซึ่งเป็นปุ่มที่มีไฟส่องสว่างโดดเด่น สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสลับระหว่างการตั้งค่าสำหรับการขับขี่ประจำวันไปสู่การตั้งค่าสมรรถนะสูงในสนามแข่งได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทำให้ทุกเส้นทางคือสนามของ M5
เมื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่จากโหมด ROAD ซึ่งเป็นโหมดมาตรฐานที่เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัย ไปสู่โหมด SPORT การทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่จะถูกจำกัดให้เหลือเฉพาะระบบที่จำเป็น เพื่อรีดเอาความสปอร์ตขั้นสุดออกมา และรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอ BMW Curved Display ก็จะปรับเปลี่ยนไปสู่ M-specific เพื่อนำเสนอข้อมูลที่สำคัญต่อการขับขี่สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ นี่คือการเตรียมพร้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการปลดปล่อยพลังงานของ M5
ความปลอดภัยและนวัตกรรม: เทคโนโลยีที่ปกป้องและอำนวยความสะดวก
BMW M5 ใหม่ ยกระดับความมั่นใจและความสะดวกสบายในการขับขี่ประจำวันขึ้นไปอีกขั้น ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบช่วยจอดอัตโนมัติที่หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมระบบมาตรฐานที่ครบเครื่องเพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและไร้กังวล
ระบบ Driving Assistance Professional เป็นชุดเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ประกอบด้วย:
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Front Collision Warning): ช่วยลดความเสี่ยงของการชนโดยการแจ้งเตือนผู้ขับขี่และเตรียมพร้อมระบบเบรก
ระบบเตือนการออกนอกเลนที่สามารถพารถกลับเข้าเลนด้วยการช่วยบังคับพวงมาลัย (Lane Departure Warning with Steering Intervention): ช่วยให้รถอยู่ในเลนอย่างปลอดภัย และสามารถช่วยบังคับพวงมาลัยเพื่อนำรถกลับเข้าเลนได้
ระบบช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง (Evasion Assistant): ช่วยผู้ขับขี่ในการหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
ระบบตรวจจับความตื่นตัวของผู้ขับขี่ (Attentiveness Assistant): ตรวจจับสัญญาณความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่และแนะนำให้หยุดพัก
ระบบแสดงความเร็วจำกัด (Speed Limit Info): แจ้งเตือนความเร็วที่จำกัดบนเส้นทางที่กำลังขับขี่อยู่
นอกจากนี้ BMW M5 ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Parking Assistant Professional และ Reversing Assistant ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่จัดการกับทุกพื้นที่จอดรถได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการจอดขนานหรือจอดเข้าซอง รวมถึงการถอยหลังในพื้นที่จำกัด ระบบเหล่านี้ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวันได้อย่างมหาศาล
ปุ่ม M Hybrid ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในรุ่นนี้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมดต่างๆ ได้อย่างอิสระ:
โหมด HYBRID: เป็นการผสมผสานพละกำลังจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด เพื่อเสริมทั้งความประหยัดพลังงานและสมรรถนะให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่
โหมด ELECTRIC: รถจะใช้งานเครื่องยนต์สันดาปเฉพาะเมื่อผู้ขับเหยียบคันเร่งจนสุดหรือใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความเงียบสงบและการลดมลพิษ
โหมด eCONTROL: เน้นการดึงพลังงานคืนจากระบบเบรก เพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่ให้คงที่ เหมาะสำหรับการเดินทางที่ต้องการสำรองพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในภายหลัง
เมี่อกดปุ่ม DSC ตัวรถจะเปิดใช้งาน M Dynamic Mode ซึ่งระบบ DSC จะช่วยควบคุมระบบเบรกและลดกำลังเครื่องยนต์อย่างเหมาะสม เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หรือคุณอาจเลือกปิดการทำงาน DSC โดยสมบูรณ์ก็ได้เช่นกัน สำหรับนักขับที่ต้องการควบคุมรถอย่างเต็มที่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เช่นในสนามแข่ง
ขณะที่ระบบ M Drive Professional จะเปิดให้ผู้ขับขี่เลือกโหมด TRACK ซึ่งเป็นโหมดที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในสนามแข่งโดยเฉพาะ โดยจะปิดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ไม่จำเป็น และเพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติมที่เน้นการขับขี่ที่ระดับสมรรถนะสูงสุดอย่าง M Laptimer สำหรับบันทึกเวลาต่อรอบ และ Boost Control ที่ช่วยให้การออกตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ราคาและข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้
BMW M5 ใหม่ ปี 2025 เป็นการลงทุนในยนตรกรรมระดับมาสเตอร์พีซ ที่นำเสนอสมรรถนะอันเป็นตำนาน ผสานกับนวัตกรรมแห่งอนาคต ด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ 12.999 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard) และรุ่นที่มาพร้อมเบรกเซรามิกในราคา 13.699 ล้านบาท นี่คือโอกาสที่คุณจะได้เป็นเจ้าของสุดยอดรถยนต์สมรรถนะสูงที่ redefining คำว่า “ขับขี่” ไปอีกขั้น การเป็นเจ้าของ BMW M5 ไม่ได้เป็นเพียงการซื้อรถยนต์ แต่เป็นการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ และเป็นส่วนหนึ่งของตำนานที่กำลังจะถูกเล่าขานไปอีกหลายปี
บทสรุป: มรดกแห่ง M ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
BMW M5 ใหม่ ปี 2025 คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยู M ในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ไม่หยุดนิ่งในนวัตกรรม แต่ยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งความแรงและประสบการณ์ขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นขุมพลัง M HYBRID ที่ปฏิวัติวงการ การควบคุมที่แม่นยำดุจนักแข่งมืออาชีพ หรือห้องโดยสารที่หรูหราพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ทุกรายละเอียดของ BMW M5 คันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบ “ที่สุด” ให้กับผู้ขับขี่
นี่คือรถยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการเดินทาง แต่เป็นเครื่องจักรที่สร้างสรรค์อารมณ์ความรู้สึก เป็นเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจทุกการตอบสนอง และเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร BMW M5 ใหม่ ไม่ใช่แค่การกลับมา แต่เป็นการนิยามใหม่ของ “สุดยอดรถยนต์ซีดานสมรรถนะสูง” ในยุคสมัยใหม่ ที่พร้อมจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ BMW ที่เหนือชั้นในแบบที่คุณไม่เคยจินตนาการมาก่อน สัมผัสตำนานบทใหม่ได้แล้ววันนี้!

