Audi S6 e-tron: ขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคตที่ redefine นิยามความหรูหราและสมรรถนะในตลาดเมืองไทย ปี 2025
ในโลกที่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ปี 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่วงการรถยนต์พรีเมียมต้องจับตามอง เมื่อ Audi ประเทศไทย ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับยนตรกรรมไฟฟ้าสมรรถนะสูงรุ่นล่าสุด The all-new, fully electric Audi S6 e-tron ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกสองสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ คือ Audi S6 Avant e-tron และ Audi S6 Sportback e-tron นับเป็นการผสานรวมเอาตำนานแห่งดีไซน์ Avant อันเป็นที่หลงใหลของแฟนๆ ทั่วโลก เข้ากับพลังขับเคลื่อนไฟฟ้า e-tron ที่ล้ำสมัยที่สุดของแบรนด์ ได้อย่างลงตัวและทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5,899,000 บาท Audi S6 e-tron พร้อมแล้วที่จะเข้ามาเขย่าบัลลังก์ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมของประเทศไทย และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าทุกความคาดหมาย
ตำนาน Avant สู่ยุคไฟฟ้า: การบรรจบกันของดีไซน์และนวัตกรรม
สำหรับผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของ “Avant” ดีไซน์ตัวถังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ที่โดดเด่นด้วยเส้นสายสปอร์ตโฉบเฉี่ยวผสานกับพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์หลากหลาย ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่แฝงไว้ซึ่งความปราดเปรียว Avant ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์พรีเมียมที่ผสมผสานความหรูหรา ความสปอร์ต และประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว และในปี 2025 นี้ Audi ได้นำตำนานบทนี้มาสู่ยุคใหม่แห่งการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างเต็มภาคภูมิ ผ่าน Audi S6 Avant e-tron และ Audi S6 Sportback e-tron ซึ่งไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่เป็น “S model” ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้เป็น Avant และ Sportback ที่ทรงพลังที่สุด ขับสนุกที่สุด และสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การตัดสินใจนำเสนอ Audi S6 e-tron ในรูปแบบ Avant และ Sportback สะท้อนถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของ Audi ที่มีต่อความต้องการของตลาดผู้บริโภคระดับพรีเมียม Avant ตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้เป็นแค่พาหนะ แต่เป็นคู่หูที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ถึง 1,422 ลิตร ที่พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลกับครอบครัว การขนอุปกรณ์กีฬา หรือแม้แต่การเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ขณะที่ Sportback มอบอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่หลงใหลในความสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ 4 ประตู ที่เน้นเส้นสายคมกริบ พร้อมท้ายรถที่ลาดเอียงอย่างมีสไตล์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความอเนกประสงค์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระ 1,330 ลิตร ซึ่งทั้งสองรูปแบบต่างสะท้อนถึง DNA ของ Audi ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เหนือกว่าแค่ความสวยงาม แต่ยังต้องตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ปฏิวัติสมรรถนะ: ขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบบนแพลตฟอร์ม PPE
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Audi S6 e-tron โดดเด่นเหนือคู่แข่ง คือการเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในตระกูล S model ที่ใช้แพลตฟอร์มไฟฟ้าระดับพรีเมียม (Premium Platform Electric – PPE) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันถัดไปของ Audi และ Porsche โดยเฉพาะ แพลตฟอร์ม PPE นี้ไม่เพียงแต่เป็นรากฐานสำหรับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกมิติ มอบความสมดุลระหว่างไดนามิกที่เร้าใจและความสะดวกสบายระดับสูงได้อย่างไร้ที่ติ
ภายใต้เรือนร่างอันสง่างามของ Audi S6 e-tron ซ่อนไว้ซึ่งขุมพลังไฟฟ้าสองมอเตอร์ที่ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่แบบ e-quattro ให้พละกำลังสูงสุดรวม 551 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 855 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่ถูกแปลงเปลี่ยนเป็นประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง สามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ซึ่งเป็นสมรรถนะที่เทียบเคียงได้กับรถยนต์ High Performance ระดับตำนานอย่าง Audi RS 6 Avant performance เลยทีเดียว ความเร็วสูงสุดที่ 240 กม./ชม. ก็ยืนยันถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ การตอบสนองที่ฉับไวและไร้รอยต่อของมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ทุกการเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจและเร้าใจ ตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่ให้ทั้งความสนุกและความปลอดภัยบนทุกเส้นทาง
ยิ่งไปกว่านั้น Audi S6 e-tron ยังมาพร้อมกับช่วงล่างถุงลมแบบสปอร์ต Adaptive S air suspension ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะสมกับสมรรถนะของ S model ระบบช่วงล่างอัจฉริยะนี้สามารถปรับสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความแข็งแกร่งได้อย่างแม่นยำตามสภาพถนนและโหมดการขับขี่ที่เลือก ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความมั่นคงในการเข้าโค้ง และความนุ่มนวลในการเดินทางไกลได้อย่างไร้ที่ติ เมื่อทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-quattro ที่ตอบสนองได้รวดเร็วกว่าระบบขับเคลื่อน quattro แบบกลไก Audi S6 e-tron จึงมอบการควบคุมที่แม่นยำ การยึดเกาะถนนที่เป็นเลิศ และประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกสนานและปลอดภัยในทุกสภาพการณ์ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ล้วนถูกรังสรรค์มาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์หรูไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน
อิสระแห่งการเดินทาง: พิสัยการขับขี่และการชาร์จที่เหนือชั้น
หนึ่งในข้อกังวลหลักของผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าคือเรื่องของพิสัยการขับขี่และความรวดเร็วในการชาร์จ Audi S6 e-tron ได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดความกังวลเหล่านี้ออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ให้พิสัยการขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้ไกลถึง 647 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) สำหรับรุ่น Avant และ 675 กิโลเมตร (WLTP) สำหรับรุ่น Sportback ซึ่งถือเป็นระยะทางที่เพียงพอต่อการเดินทางไกลข้ามจังหวัด หรือการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องแวะชาร์จบ่อยครั้ง
เมื่อถึงเวลาเติมพลัง Audi S6 e-tron ก็พร้อมตอบโจทย์ด้วยเทคโนโลยีการชาร์จเร็วสูงสุด 270 kW ด้วยกระแสไฟ DC ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าการพักรับประทานอาหารกลางวันเสียอีก ความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็วนี้ช่วยลดระยะเวลาการหยุดพักได้อย่างมีนัยสำคัญ และทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะวางแผนการเดินทางระยะไกลแค่ไหน Audi S6 e-tron ก็พร้อมพาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างไร้กังวล
สุนทรียะแห่งดีไซน์: ภายนอกสปอร์ต ภายในหรูหรา
ดีไซน์ภายนอกของ Audi S6 e-tron สะท้อนความเป็น “S model” อย่างชัดเจนในทุกรายละเอียด ด้วยการตกแต่งรอบคันแบบสปอร์ตที่เน้นสี matte aluminum เพิ่มความโดดเด่นและบ่งบอกถึงสมรรถนะที่เหนือชั้น ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ multi-spoke S ขนาด 21 นิ้ว มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังสื่อถึงพลังการหยุดที่เหนือชั้น ไฟหน้า Matrix LED อันล้ำสมัย มาพร้อมเอฟเฟกต์ไฟ Digital light signatures ที่สามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ได้มากถึง 8 รูปแบบ สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ยามค่ำคืน ไฟท้าย Digital OLED พร้อม taillight signatures ที่พาดยาวตลอดแนวฝากระโปรงท้าย เสริมความโดดเด่นและล้ำสมัยด้วย Illuminated Audi rings โลโก้ไฟเรืองแสงแบบ 2 มิติ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์อันเป็นที่จดจำของยุคไฟฟ้า
สำหรับรุ่น Avant e-tron การออกแบบเสา D ใหม่ที่มีความลาดเอียงมากขึ้น พร้อมเส้นกรอบกระจกที่วิ่งยาวรอบตัวรถ ช่วยเสริมมิติให้ตัวรถดูพุ่งทะยานและปราดเปรียว สอดรับกับความอเนกประสงค์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่ใหญ่ถึง 1,422 ลิตร ที่จัดวางได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ อุปกรณ์ตั้งแคมป์ หรือแม้แต่จักรยานพับได้ ก็สามารถบรรทุกได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่รุ่น Sportback e-tron ด้วยดีไซน์สปอร์ต 4 ประตู เน้นเส้นสายที่เฉียบคมและส่วนท้ายที่ลาดเอียง มอบลุคสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยวและทันสมัยกว่า พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระ 1,330 ลิตร ที่ยังคงให้ความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวัน
เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร คุณจะพบกับงานฝีมือและการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน การตกแต่งภายในด้วย Carbon Square Structure พร้อมตราสัญลักษณ์ S ที่พวงมาลัย เบาะคู่หน้า และกาบประตูทั้งสองฝั่ง ตอกย้ำถึง DNA ความสปอร์ตตามแบบฉบับ S model เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตหรูหราด้วยลาย Waterfall stitching และฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่ มอบความสบายสูงสุดในทุกการเดินทาง
เทคโนโลยีภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและความบันเทิงอันเหนือระดับ Dynamic interaction light เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่แสดงเอฟเฟกต์ไฟตามการขับขี่ เช่น การเปิดไฟเลี้ยว หรือแสดงระดับแบตเตอรี่ขณะชาร์จ สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นและเชื่อมโยงกับผู้ขับขี่อย่างเป็นธรรมชาติ Smart Door Panel แผงควบคุมอัจฉริยะที่ประตูฝั่งคนขับเป็นศูนย์รวมฟังก์ชันสำคัญต่างๆ ทำให้การควบคุมเป็นไปอย่างง่ายดายและเป็นระเบียบ ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ ที่รายล้อมด้วยลำโพงถึง 17 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและสมจริง ประหนึ่งกำลังนั่งฟังคอนเสิร์ตส่วนตัว
หน้าจอ Curved MMI Panoramic Display ที่โค้งเข้าหาผู้ขับขี่ประกอบด้วย Audi virtual cockpit plus ขนาด 11.9 นิ้ว และหน้าจอระบบสัมผัส MMI touch display ขนาด 14.5 นิ้ว เสริมด้วย MMI front passenger display ขนาด 10.9 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ให้ความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ระบบ Augmented Reality Head-Up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบนำทาง และสัญญาณเตือนต่างๆ บนกระจกหน้ารถแบบเสมือนจริง ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างยิ่ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแบบสปอร์ตดีไซน์ตัดบนและตัดล่าง พร้อม Paddle shift และตราสัญลักษณ์ S ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตเต็มตัว
ไม่ใช่แค่ภายในและภายนอกที่ล้ำสมัย แต่ยังรวมถึงฟังก์ชันอำนวยความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ ที่คิดมาอย่างดี เช่น Switchable Panoramic Glass Roof หลังคากระจกพาโนรามิคที่สามารถปรับการใช้งานได้มากถึง 6 รูปแบบ พร้อม UV Sunscreen ป้องกันแสงแดดและรังสียูวี ฝากระโปรงหน้ามาพร้อมระบบเปิดอัตโนมัติแบบ Gesture Control เพียงปัดมือเหนือโลโก้ Audi rings ก็สามารถเปิดฝากระโปรงหน้าที่มีช่องเก็บของ (Frunk) ขนาด 27 ลิตรได้ทันที และ Projection Light ที่แสดงตำแหน่งสำหรับการเตะเปิด-ปิดฝาท้ายแบบอัตโนมัติ เพิ่มความหรูหราและสะดวกสบายในการใช้งาน
ความปลอดภัยสูงสุด: ยกระดับมาตรฐานการขับขี่
Audi ไม่เคยประนีประนอมเรื่องความปลอดภัย และ Audi S6 e-tron ก็อัดแน่นไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยที่ครบครันตามมาตรฐานสูงสุดของปี 2025 เพื่อมอบความอุ่นใจในทุกการเดินทาง ระบบควบคุมความเร็วแปรผันและรักษาระยะห่างด้านหน้า (Adaptive cruise control with Stop&Go function) ช่วยให้การขับขี่บนทางหลวงเป็นไปอย่างผ่อนคลายและปลอดภัย ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุแบบด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง (Proactive occupant protection, front side and rear) ทำงานร่วมกับระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Front emergency brake assist) เพื่อลดความเสี่ยงจากการชน
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยหักเลี้ยวพวงมาลัยในกรณีฉุกเฉิน (Swerve assist) และระบบช่วยเบรกเมื่อเลี้ยวรถที่ทางแยก (Turn assist) เพื่อความปลอดภัยในสถานการณ์คับขัน ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก (Front cross traffic assist) และระบบแจ้งเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า (Distance warning) ช่วยเพิ่มการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane change warning) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane departure warning) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขับขี่ในปัจจุบัน และเพื่อความปลอดภัยขณะจอดรถ มีระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง (Rear cross-traffic assist) รวมถึงระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถ เมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ (Exit warning) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (360-degree cameras) ช่วยให้การจอดรถและถอยรถเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมด้วยระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (Park assist plus) ที่จะช่วยให้คุณจอดรถได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องลงมือเอง และระบบเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Fatigue warning) ที่จะคอยดูแลความปลอดภัยของผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง ระบบความปลอดภัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Audi ในการมอบยานยนต์ที่ไม่เพียงแค่เร็วและแรง แต่ยังปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย
ราคาและการเป็นเจ้าของ: ประสบการณ์พรีเมียมที่คุ้มค่า
Audi S6 e-tron ทั้งรุ่น Avant และ Sportback มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 5,899,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสมรรถนะ และความหรูหราที่ได้รับ Audi ยังมีตัวเลือกสีภายนอกให้เลือกหลากหลายถึง 6 สี ได้แก่ Malpelo blue, metallic (สีใหม่), Siam beige, metallic, Glacier white, metallic, Mythos black, metallic, Plasma blue, metallic และ Daytona grey, pearl effect (เพิ่มเงิน 50,000 บาท) ซึ่งทุกสีล้วนได้รับการคัดสรรมาอย่างดี เพื่อขับเน้นดีไซน์อันโดดเด่นของตัวรถ
Audi S6 e-tron เป็นรถยนต์นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากโรงงานในประเทศเยอรมนี เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานการผลิตระดับโลก พร้อมการรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ซึ่งตอกย้ำถึงความมั่นใจในคุณภาพและความทนทานของยานยนต์ไฟฟ้าจาก Audi การเป็นเจ้าของ Audi S6 e-tron ไม่ใช่แค่การได้ครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง แต่เป็นการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ เทคโนโลยีแห่งอนาคต และความอุ่นใจในการบริการหลังการขายจาก Audi ประเทศไทย
บทสรุป: ก้าวใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าหรูในประเทศไทย
ในภาพรวม The all-new, fully electric Audi S6 e-tron ทั้งในรูปแบบ Avant และ Sportback ไม่ได้เป็นเพียงการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด แต่เป็นการประกาศถึงยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงและพรีเมียมในประเทศไทย ด้วยการผสานดีไซน์ Avant อันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับขุมพลังไฟฟ้าที่เร้าใจ เทคโนโลยีล้ำสมัยบนแพลตฟอร์ม PPE และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน Audi S6 e-tron คือบทสรุปของวิสัยทัศน์ที่ Audi มีต่ออนาคตของยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์เรื่องสมรรถนะและความยั่งยืน แต่ยังรวมถึงความหรูหรา ความสะดวกสบาย และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร Audi S6 e-tron คือตัวเลือกที่ยากจะปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารที่ต้องการรถยนต์คู่ใจสำหรับการเดินทางในเมืองใหญ่ ครอบครัวยุคใหม่ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์สำหรับทุกกิจกรรม หรือผู้ที่หลงใหลในความเร็วและเทคโนโลยีล้ำหน้า Audi S6 e-tron พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแท้จริง มาร่วมสัมผัส รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่ redefining นิยามของคำว่าพรีเมียมได้แล้ววันนี้ และเปิดประสบการณ์ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของการเดินทางของคุณไปตลอดกาล
